KU KPS Marathon 2021-2022

KU KPS Marathon 2021 (ที่จัด 2022) ระยะฟลูมาราธอน

งานวิ่งที่ไฮไลต์ควรจะเป็นการวิ่งผ่านถนนสายชมพูพันธ์ทิพย์ที่ออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง ถูกที่เลื่อนจัดมา 3 ครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 21 จนได้มาจัดในเดือนกันยายนไม่มีดอกไม้ให้ดู มีแต่ฤดูฝนที่เต็มไปได้สีเขียวสดใสพร้อมความชุ่มฉ่ำเต็มที่ มาลงล๊อคเป็นมาราธอนที่ 10 ของเราพอดี

    เจ็ดปีนับจากลงฟลูครั้งแรก ถือว่าเป็นระยะที่ลงวิ่งไม่บ่อย และไม่ต่อเนื่องเอาเสียเลย ทั้งต้องพักจากอุบัติเหตุ ลงเล่นไตรกีฬา เป็นพ่อลูกอ่อน Pandermic และที่สำคัญมันค่อนข้าง ทำร้ายร่างกายถ้าคนวิ่งเตรียมตัวไม่พร้อม

    เคยได้ยินว่าร่างกายมนุษย์ถูกปรับให้เป็นสัตว์ที่วิ่งทางไกลได้ดี (ล่าสัตว์เป็นอาหารในอดีต) ในที่นี้คือวิ่งได้วันละประมาณ 20 KM. ถ้าต้องวิ่งเกินกว่านั้น เท่ากับกำลังพยายาม ข้ามขีดจำกัดพื้นฐานของร่างกาย ยิ่งถ้าจะตั้งใจวิ่งให้ถึง 42KM ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น ยิ่งต้องใช้แรงบันดาลใจสูงมาก (พอๆกับแรงป้ายยาจากผู้หวังดี)

     งานวิ่งจัดที่สถาบันเก่าเป็นโอกาสที่เพื่อนๆจะได้มารวมตัวกัน จากที่ป้ายยากันไปมา เมื่อเกือบสองปีก่อน มาถึงปัจจุบันก็มีห่างหายไปจากการวิ่งไปบ้าง แต่จากที่จะรวมกัน มาจบมาราธอนในมหาวิทยาลัยเก่าเป็นรุ่นที่ 1 (งานวิ่งจัดเป็นครั้งที่ 9 แต่เพิ่งมีระยะฟูลครั้งแรก) กับเหตุผลหาเวลามาเจอเพื่อน ทำให้ก็ยังมีมาร่วมกันทั้งหมด 6 คนถ้วน

     เช้าเสาร์ 24 กย. เดินทางนัดไปขึ้นรถเพื่อนไปด้วยกันที่ MRT รังสิต (ขาประจำที่ตอนนี้ยังเกาะระยะมาราธอนไว้ได้อยู่ 3 คน) ถึงกำแพงแสนไปนัดเจอ และกินข้าวเที่ยงร้านใกล้ๆ ม. บ่ายแก่ๆไปรับ BIB เรียบง่ายเหมือนเดิม ซุ้มงานและบูทเยอะกว่าครั้งล่าสุดที่มาเมื่อ 3 ปีก่อนประมาณ 10% จัดการไม่เร็วแต่คนน้อยก็เลยใช้เวลาไม่มาก เดินดูของกันอีก 15 นาที ก็ย้ายไปนั่งร้านกาแฟ I GEAR ตรงวิศวะ เมาส์กันยาวอยู่ถึงบ่าย 3 เข้าไปเชคอินที่หอพักนานาชาติ เอนหลังกันซักพัก เราก็พาโปรแบงค์ไปวนดู ม.+ที่กินข้าว กลับมาก่อน 6 โมง สรุปไปกินหมูกะทะกันอย่างที่คุยไว้เล่นๆ

     กินหมูกะทะครั้งแรกในรอบ 3 ปีก็สนุกดี พยายามเลือกกินที่เซฟๆหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง ผักลวก แต่ก็ยัดไปเยอะอยู่ พอเริ่มอิ่มกันปรากฎฝนตกเป็นพายุ แรงจนกลับไม่ไหว คราวนี้อยู่ยาว เริ่มคิดว่าจะได้วิ่งกันไหมถ้าฝนไม่หยุด หรือน้ำท่วมขังเยอะ กว่าฝนจะเบาลงจนพอกลับได้ก็ต้องนั่งยาวถึง 4 ทุ่ม ก็เผื่อใจประมาณนึงว่าอาจจะไม่ได้วิ่ง จริงจังแล้ว แต่ไงๆเราก็คงดื้อออกมาวิ่งยาวตอนที่ฝนเบาหรือใกล้เช้าอยู่ดี   

     พยายามลองนอนดูตอน 5 ทุ่ม ยังดีที่พอหลับได้ไปเกือบ 2 ชม. ตื่นตีหนึ่งเปิดโซเชียลกับอ่านข่าว จนถึงตอนนี้ฝนก็ยังปรอย คิดว่าคนอื่นคงไม่ลุกกันล่ะมั้ง อาจต้องลองจ๊อกไปจุดปล่อยตัวคนเดียว พอใกล้ตี 2 ก็ลุกไปเตรียมตัว ตีสองครึ่งพร้อมจะเดินออกห้อง ปรากฎว่าเพื่อนคนอื่นก็ใกล้พร้อมกันแล้ว เลยจะนั่งรถออกไปพร้อมกัน ยอมใจแต่ละคนจริงๆ ขนาดไม่พร้อมทั้งร่างกายทั้งอากาศก็ยังไม่มีใครเท เป็นปลื้ม

     ลงรถก็แกะเสื้อกันฝนพลาสติกที่เตรียมไว้ใส่ แล้วเดินไปจุดปล่อยตัวเหลือเวลาไม่ถึง 10 นาที มองหาเพื่อนที่เหลือ ยังหากันเจอเพราะนัดที่ไว้คร่าวๆและคนน้อยกะด้วยสายตาน่าจะไม่ถึง 400 คน ยังได้มาถ่ายรูปด้วยก่อนออก เวลาทุกอย่างเป๊ะมาก ไม่มีใครวอร์มเพราะเวลาไม่พอแล้ว และงานปล่อยตัวตรงเวลา พอจะตีสามก็ประกาศแจ้งรวมตัว แล้วนับถอยหลังเลย

  ตี 3 เป๊ะส่งสัญญานปล่อยตัว แถวไม่ยาวผ่านเส้นสตาร์ทหลังเวลาแค่ประมาณ 30 วินาที เพื่อนๆก็แยกย้ายไปเพซของใครของมัน วัดความพร้อมของร่างกายแล้วไม่ถึงกับสมบูรณ์ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่ เลยกะว่าเดี๋ยวไล่ตามเพซเซอร์ลูกโป่ง 4.00h. ดูว่าจะไปทันตรงไหน แล้วจะเกาะไปได้แค่ไหน ข้อดีของคนน้อยคือแซงง่าย วิ่งได้ตามเพซที่ต้องการโดยไม่เหนื่อยไป ลองเร่งนิดๆที่เพซ 5.25-5.30 ไล่แซงลูกโป่งไปได้เรื่อยๆ เนื่องจากเป็นทางตรงยาวเลยเห็นโป่ง แต่ละกรุ๊ปได้ง่าย พอเห็น 4.00 ปุ๊บก็ผ่อนลงมาหน่อย เพราะหัวใจจะเข้าโซน 4 ตั้งแต่ 15 นาทีแรกนี่รอดยากแน่ ตามโป่งแบบมีระยะห่างไปได้ซักพักก็มาไล่ทัน ไปเกาะกลุ่มได้ตอนช่วงกิโล 4-5 เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะและก็เหนื่อยกว่าที่ตั้งใจไว้นิดนึงหมือนกัน

    ฝนเบาลงมากและเริ่มร้อนจากการวิ่งมาซักระยะจัดการถอดเสื้อกันฝนออก แต่ยังเสียดายเอาใส่กระคาดเอวไว้ไม่ทิ้ง แบกไปตลอดทาง จากนี้ไปก็การพยายามเกาะกลุ่มลูกโป่งไว้ให้ได้ เพซเซอร์ 3 คนช่วงแรกมีลูกค้าเกาะอยู่ประมาณ 10 คนตามเวลายอดนิยม วิ่งได้ครึ่งชัวโมงฝนเริ่มขาดเม็ด เหลือแต่พื้นที่ยังมีเปียกแฉะอยู่ แต่ถนนลาดยางใหม่เกือบตลอดทางซึ่งทำดีมาก แทบไม่มีน้ำขัง ขยายรักษารองเท้าให้เปียกน้อยที่สุด จะได้ไม่ไปเสียดสีจนแสบในครึ่งหลัง

     ช่วง 10k แรกวิ่งวนอยู่รอบเล็กใน ม. บางช่วงแสงไฟน้อย ทางงานก็มีไฟสีงานวัดมาช่วยเพิ่ม รวมถึงเพซเซอร์ช่วยเปิดไฟฉายโทรศัพท์ส่องเพื่อความปลอดภัย

11k ผ่านอุโมงค์ต้นยูคา มืดไปเห็นแค่แสงหลอดไฟสี

14k ผ่านหอพัก คิดในใจว่าจะมีเพื่อนกลับไปนอนไหมน้อ

16k เริ่มไปวิ่งเส้นทำใหม่รอบนอก คราวนี้เรียบๆยาวๆ พยายามวิ่งให้ไหลไปเรื่อยๆ เพซเซอร์คุมเวลาค่อยข้างดีมาก 5.35-5.39 แต่เป็นตัวเราที่เริ่มรู้สึกว่าแกว่งๆ ใช้ความพยายามไม่เท่ากันในแต่ละกิโล

24k ที่หนึ่งสวนกลับมา ข้อดีของทางแคบคือเห็นคนที่สวนมาง่าย ใกล้ชิด รู้สึกเป็นงานที่ตบมือให้กำลังใจไปเยอะ ผสมโรงกับเพซเซอร์ไปด้วย (แต่คนอื่นในกลุ่มไม่ค่อยเล่นนะ มาเห็นรูปที่หลังคือรุ่นพี่กว่าไปกันหลายปี วิ่งแรงกันทีเดียว)

    27k ถึงจุดกลับตัว เช็คสภาพยังดีไปต่อไหว ในกลุ่มเริ่มแตกหลุดกันออกไปเยอะหลังจากวิ่งได้ ⅔ เริ่มหาจังหวะว่าจะแยกออกไปตอนไหนดีเพราะมีลุ้นอาจจะได้ PB แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร่งไหวกว่านี้ซักเท่าไหร่ เริ่มปริ่มเส้น 30k จังหวะเพซเซอร์รับน้ำดูผ่อนๆ เราก็ไม่รอ ประคองเพซต่อมาเลย

    32k คิดว่าเหลืออีก 1 มินิ จะลองเร่งดูเอาใกล้ๆเทมโป้ ปรากฎว่าหัวใจค้างสูงมานาน เร่งไปเทมโป้ปกติไม่ไหว ได้แค่ประมาณ 5.20-5.25 ก็ประคองไว้เท่านั้น เริ่มวิ่งสวนเพื่อน แต่เค้าทักนะเพราะเข้าโหมดไม่สนใจข้างทางไปแล้ว วิ่งรักษาความเร็วไปเรื่อยๆ ไม่กล้าหันไปมองข้างหลัง เพราะคิดว่าไม่ได้หนีโป่งมาไกลมาก เดี๋ยวจะท้อ เริ่มไล่เก็บนักวิ่งบางคนที่ต้องเดิน แต่เนื่องจากคนน้อยเลยแซงได้ไม่มาก น่าจะเป็น 50 คนแรกของฟลูอยู่ 

     35k ผ่านโค้งบ่อหนึ่งขากลับ ตะคริวเริ่มมา เร่งอีกไม่ได้ เพซเริ่มลงไป 5.30-5.35 แถมเผลอไปกระโดดทักตอนสวนโปรแบงค์ เล่นไม่รู้เวลา 555 ขึ้นน่องเลย ประคองเพซสุดฤทธิ์ ตำนวณเวลาน่าจะใกล้เคียงบางแสนทั้งที่สนามง่ายกว่าก็ยอมรับกันไปว่าไม่ได้ฟอร์มพีค

37k กินเจล เริ่มแรงเฮือกสุดท้าย ตะคริวตอดสม่ำเสมอแต่ยังคุมเพซ 3.35 ได้ก็กดไปเรื่อยๆ เล็งมาร์คคนข้างหน้า ปรากฏว่าความเร็วพอกัน รักษาระยะห่างต่อไปได้เรื่อยๆ

    40k ตัดเข้าทางหลักเป็นทางตรงยาวสุดท้าย ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ได้แซงใครเพิ่ม โดนแซงนิดหน่อยไม่รู้ว่า
ฮาร์ฟหรือฟลู เพราะตอนนี้ทุกระยะมารวมกันหมดแล้ว แต่คนน้อยเลยวิ่งสบายไม่ติดใคร
เคาะต่อไปเรื่อยๆ จนเข้าเส้นได้

    ตามเวลาคือ 3:56:41 เร็วสุดเท่าที่เคยวิ่ง แต่จะบอกว่า PB ก็ไม่เต็มปาก เนื่องจากระยะ มันน้อยกว่าบางแสนไป 300 ม. เพซเฉลี่ยก็ช้ากว่า 0.01 แล้วสนามช่วงท้ายก็ง่ายกว่าเยอะ แต่ประเมินตัวเองก็ยังถือว่าพอใจระดับเกินเป้าก่อนออกตัว แถมเราก็เต็มที่เท่าที่ตอนนี้ทำได้

ไม่ได้หยุดเดินเกินจำเป็น คงความเร็วหน้าเส้นได้ดีกว่าเดิม ไม่ได้หมดจนตกไปเพซ 6 เหมือนก่อนหน้า ในสภาพที่ไม่ได้เทเปอร์มา คราวหน้าจะลองไปพีคในบางแสนดูว่าจะดีกว่านี้ได้ไหม

     ตอนเข้าเส้นปรากฎว่าดันเป็นอันดับที่สิบต้นๆของ Age group ก็เลยไปแกว่งว่าอาจจะมีลุ้นถ้วยที่ระลึก เนื่องจากแจกเยอะถึง 10 อันดับ จนสุดท้ายได้ที่ 11 ก็ยอมรับผลแต่โดยดี เนื่องจากเวลาขนาดนี้ งานอื่นคงไม่ได้ลุ้นอะไรอยู่แล้ว แต่หลายคนก็ค่อนข้างคาใจวิธีเช็คเวลาเนื่องจากมาดูจากนาฬิกาข้อมือนักวิ่ง ซึ่งเออเรอร์ง่ายมาก ฮาร์ฟมีประท้วงกันเยอะอยู่ แล้วจะมีชิพติดรองเท้าไปทำไม๊ 555 แค่รู้สึกเสียดายเวลาที่เอาไปพะวงน่าจะตั้งใจไปถ่ายรูปเพื่อนที่เข้าเส้นชัยมากกว่า

     โน๊ตสั้นๆว่า งานยังไม่ได้มีมาตราฐานเป๊ะขนาดนั้น แต่ก็วิ่งสบาย ทางราบแทบไม่มีความชัน ปิดถนนวิ่งในวิทยาเขต แค่บางช่วงก็ไม่มีไฟส่อง และถนนแคบไปนิดจะวิ่งทำเวลาได้ต่อเมื่อคนไม่เยอะเกินไป การจัดเส้นทางโอเค บรรยากาศในม.ก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ร่มเงาเยอะ ช่วงเช้าฟ้าครึ้มอากาศดี มาวิ่งลุ้นเวลาก็ได้ วิ่งชิลออกกำลังกายก็ดี การจัดการหลังเส้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในเรื่องเช็คเวลา แถวไม่พร้อมปริ้นใบเช็คเวลาให้นักวิ่ง คงต้องทำใจในบางเรื่อง อาหารมีชุดข้าวเตรีมไว้ครบคน แต่ส่วนเพิ่มเติมอย่างพวกออกร้านมีมาไม่มาก พอระยะสั้นเข้าเส้นมานั่งสังสรรค์กัน ทำให้ฮาร์ฟแนวหลังและฟลูที่เกิน 5 ชม. ไม่ค่อยมีอะไรให้กินเพิ่มแล้ว

     รอเพื่อนที่ยังไหวจนเข้าเส้นครบก็กลับหอ อาบน้ำพักได้แป๊บนึงก็แยกย้ายกัน เราเริ่มท้องเสียนิดหน่อย น่าจะจากหมูกะทะ ดีที่ไม่หนักและมาออกอาการตอนเข้าเส้นแล้ว ไม่งั้นแย่แน่ ไปนึกดูทางวิ่งห้องน้ำน้อยมากๆ อาจจะได้ DNF เป็นงานแรกถ้าดันไปปวดแถว 20k จบไม่สวยแน่นอน

    งานมาธอนแรกของงานกำแพงแสน และฟลูครั้งที่ 10 ของเรานี้ นี้ถึงจะดูงงๆกับการจัดการในงาน แต่ก็ยังยินดีที่ได้กลับมาวิ่งที่สถาบันเก่า ได้มาเจอเพื่อนและมาออกตัวพร้อมกัน แม้หลายคนจะรู้ดีว่าไม่พร้อม และไม่อาจจบได้ตามระยะเต็ม เพราะช่วงสองปีที่ผ่านมาโรคระบาดก็ทำร้ายทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่มากก็น้อย respect ทุกคนมากนะ ปีหน้ามากันอีก (ที่ระยะ 10KM แทนจะดีมาก เพราะก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน)

 

    งานนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางมาราธอนที่ง่ายที่สุดในประเทศแน่ๆ เพราะมันไม่มีความชัน แถมยังปิดถนนวิ่งอยู่ใน campus แต่ขึ้นชื่อว่ามาราธอน ไม่มีง่าย และก็ต้องใช้หัวใจนำร่างกายเสมอ

น่าจะยังมาวิ่งงาน กพส.ตราบเท่าที่ยังมีเพื่อนอยากกลับมาเยี่ยมมหาลัย ส่วนระยะไหนนั้นต่อรองกันอีกทีได้