วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2566

Phrae triathlon 2023

 


งานแพร่ไตรกีฬา Race review & Comment


ตั้งแต่งาน Ironman 70.3 Bangsaen 2020 ผ่านมา 3 ปีเศษแล้วที่ไม่ได้ลงงานไตรกีฬาเลย นอกจากสาเหตุ Covid Pandermic ที่ทำให้งานยกเลิกหรือเลื่อนไปหมด อีกส่วนก็เพราะลองไปโฟกัสกับการวิ่งดูตลอดปี 2022 (ก็เป็นปีที่ดีกับการ PB ทุกระยะ เก็บ 4 ฟลู ผ่าน 1 อัลตร้า 100)


งานกีฬาต่างๆเริ่มกลับมาทยอยจัดตั้งแต่กลางปี 2022 แล้ว ตัวเราที่พัก off-season ไปหลังจบเขาใหญ่100 อยากค่อยๆกลับมาออกกำลังกายอย่างมีเป้าหมาย ก็กลับมาคิดถึงไตรกีฬา (ส่วนนึงเบื่อวิ่งอย่างเดียวด้วย) ชวนเพื่อนแบงค์หางานลง ปรากฎว่าเดือนมีค.-พค. งานไตรจัดกันรัวๆแทบทุกสัปดาห์ จากไม่มีงานลงกลายเป็นไม่รู้จะเลือกงานไหนดี


พอจะจิ้มเลือกงาน AGT ของสมาคมไตรต้นเดือนเมษา ปรากฏว่ามีงานประกาศเพิ่มอย่างปัจจุบันทันด่วน แพร่ไตรกีฬาประกาศจัดโดยแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ซึ่งเป็นปกติของงานนี้คือ ประกาศกระชั้น รับคนน้อย และฟรี (!!!) แพร่ไตรเป็นงานที่สนใจมาซัก 2-3 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นงานที่เสียงตอบรับและรีวิวดีมาก (และฟรี) แล้วเราก็เป็นเขยน่านมาหลายปีไม่มีปัญหาเรื่องเดินทาง แต่ก่อนหน้านี้มักจะไปจัดชนติดกับ A-Race อื่นๆที่ลงไว้ก่อนแล้ว (ก็ประกาศกระชั้น) ปีนี้ทุกอย่างลงตัว เลยตั้งใจจะไปลองสนามเป็นครั้งแรกให้ได้

หลังจากเลือกงานได้ ก็ต้องให้งานเลือกเราด้วย เนื่องจากรับน้อยและใช้วิธี first come first serve  เลยต้องเตี๋ยมกับเพื่อนแบงค์ให้ตั้งใจรอเวลาสมัครให้ดี ปีก่อนๆเต็มไว แต่ปีนี้เหมือนจะช้ากว่าปกติ คงเป็นเพราะช่วงนั้นมีงานใหญ่ๆหลายงาน คนเลยแบ่งๆกันไป เลยลงได้ทั้งสองคนไม่มีปัญหา (ปีนี้เต็มหลังจากผ่านไปเกือบวัน)


ประกาศจัด 20 FEB - สมัคร 24 FEB - แข่ง 19 MAR

เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนค่อนข้างน้อย คิดเรื่องซ้อมแล้วคงไม่ได้ Endurance Build ต้องใช้บุญเก่าจากวิ่งอัลตร้าเอา(ยังเหลือเหรอ?) ว่ายเป็นกีฬาวอร์มและรีคัพเวอรี่เหมือนเดิม(=ไม่มีการพัฒนา) วิ่งน่าจะพอไหวจากความสม่ำเสมอในปีที่ผ่านมา ปัญหาคงจะปั่นเพราะทิ้งไปเลยเป็นปี ทดลองไปปั่นจักรยานในฟิสเนสก็พบว่ายากกว่าเดิมและวัตถ์ก็หายไปเหลือร้อยต้นๆ เวลาที่เหลือเลยเพิ่มให้จักรยานเยอะหน่อยไป 


ลองลงบึงตะโก้ครั้งแรก ดีเลยนะ ถ้าไม่ใช่ตอนเที่ยง

ไปสกายเลนอีกครั้งในรอบสองปี พบว่าแรงไม่มีขอแค่ปั่นจบแล้วกัน

เตรียมตัวเรื่องการเดินทาง ตรวจเช็คอุปกรณ์ โดยเฉพาะจักรยานที่ไม่ได้แตะ

ไม่มีเรื่องใหญ่ให้เป็นห่วง แต่ต้องสั่งของจุกจิกมาแทนของเก่าที่หมดสภาพไป อย่างเช่นยางรัดการมิน หรือเสื้อไตรที่ยืดย้วยไปหมดแล้ว ไม่ได้จัดอุปกรณ์ไตรนานต้องอุทานในใจว่าของที่ต้องใช้มันเยอะมาก กีฬาอุปกรณ์ชัดๆ


4 Mar 23 Bib pickup & Brief day


เช้านั่งเครื่องไปลงน่าน แล้วนั่งรถจากน่านไปแพร่พร้อมครอบครัว ใช้เวลา 1 ชม.นิดๆ นัดเจอเพื่อนแบงค์ที่ยอมขับมาแพร่และยังช่วยขนจักรยานมาให้ แต่คลาดกันไปมา หลังมื้อเที่ยงไปรับ Bib ที่วัดพระธาตุช่อแฮ จุดจัดงานอยู่ลานจอดรถด้านหลัง รับเงินคืน (เงินประกันค่าสมัคร ถ้ามาแข่งงานจะคืนให้) อากาศร้อนมากอย่างที่คิดเลยรีบหนีไปเข้าที่พักในเมือง

หลบร้อนรอตอนเย็นประมาณ 17.00 ชวนกันไปดูจุดปล่อยตัวที่อ่างเก็บน้ำแม่สาย สถานที่ดูเล็กๆกันเองๆหน่อย ยังจัดสถานที่กันอยู่ ตั้งใจจะลองลงไปว่ายทดสอบ ในอ่างเก็บน้ำที่มีทุ่นเตรียมไว้ให้พร้อมแนวจุดไข่ปลาเรียบร้อยแล้ว พื้นรอบอ่างเป็นดินละเอียดมีหินเกล็ดปน วันจริงเดินเหยียบก็คงเจ็บเท้าหน่อยๆ

ลงน้ำไปเทส ขอบอ่างปาดลาดมาก ก้าวลงทีเดียวครึ่งตัว อีกก้าวมิดหัว น้ำค่อนข้างใสถ้าเทียบว่าเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ รสชาติดีทีเดียว ไม่มีกลิ่น (น่าจะดูแลดี หรือไว้ทำน้ำประปา) ใต้มีกระแสน้ำเย็นเบาๆ ว่ายง่ายไม่หนืด เล็งทุ่นง่าย น้ำนิ่งไม่มีคลื่น อยู่ในหุบเขาไม่มีลม ว่ายตามแนวถึงทุ่นแรก 250 ม. แล้วว่ายกลับทางเดิม ใช้เวลาไปประมาณ 15 นาทีด้วยแรงสบายๆ ลอยตัวเล่นอยู่อีกซักพักใกล้แสงหมดก็ขึ้น


เดินดูราวแขวนจักรยาน งานนี้เช็คอินรถเช้าวันแข่งเลย

เดินกลับขึ้นสันอ่างไปดูตำแหน่งขึ้นจากน้ำและจุดแขวนจักรยานไว้ล่วงหน้า จากนั้นกลับเข้าเมืองแพร่ไปหาอาหารเย็นกินกัน 5 คน (3+2) ร้านแนวจีนง่ายๆ รอนานหน่อยตามสไตล์แถวๆนี้ เสร็จแล้วก็กลับโรมแรมเตรียมของและพักผ่อน



5 Mar 23 Raceday


4.30 ตื่นมาเตรียมตัว รองท้องครึ่งแรก หอบของออกเดินทางตอน 5.00


5.30 เอาของส่วนแรกไปดรอปที่ T2 วัดพระธาตุช่อแฮ (งานนี้ T1 กับ T2 คนละจุด)


5.50 Bike check-in และจัดของที่ T1 สันอ่างเก็บน้ำแม่สาย ยืนงงๆในดงฝรั่ง

(สะกดชื่อ Eng เลยอยู่ตรงนี้) เสร็จแล้วเดินลงขอบอ่างไปใกล้จุดปล่อยตัว

เท้าเปล่าเจ็บเท้านิดหน่อยแบบที่คาด เช้านี้อากาศสบาย ค่าฝุ่นพอรับได้ เกือบๆร้อย

คุยอะไรนิดหน่อยกับเพื่อนแบงค์ โฟกัสเป้าในใจนิดหน่อย กะว่าให้เวลาเฉลี่ยแล้ว+10นาที

จะพยายามให้ไม่เกินสามชั่วโมงสิบ งานนี้มีทุ่นให้ยืมใช้จำนวนมาก

ใส่กันเกือบ2/3 แต่ก็ยังเหลือ ดูนักกีฬารอบๆตัว สองระยะน่าจะไม่เกิน 300 คน

น้อยกว่าที่คิดนิดนึง สถานที่เตรียมไว้กว้าง ไม่อึดอัด

พิธีการบนเวทีเริ่มตั้งแต่ 6.00 ยืดนิดๆแบบราชการบ้าง แต่สบายๆ



6.15 เรียกนักกีฬาระยะ STD เข้าแถว เลือกไปต่อกลางๆซึ่งเป็นกลุ่มหลังของคนไม่ผูกทุ่น

ส่วนใหญ่คนผูกทุ่นยอมไปอยู่ข้างหลังกันอย่างมีมารยาท กดนาฬิกา ทำสมาธิ รอเวลา


6.25 ปล่อยตัวนักกีฬา STD (ก่อนเวลา 5 นาที เก๋ๆ)



Swim
ปล่อยตัวลงน้ำ Wave start ครั้งละ 3 คน ได้ลงช่วงประมาณคนที่ 20 น้ำยังไม่ทันขุ่น ออกตัว 5 นาทีแรกใช้แรงเบากว่าที่ตั้งใจนิดหน่อย น้ำไม่เย็นเท่าเมื่อวานชอบมาก ทุ่นเล็งง่ายเพราะคลื่นน้อย พอโดนแซงก็เริ่มเร่งดึงน้ำแรงขึ้นนิดหน่อย ระยะ STD ว่ายวนทวนเข็ม 2 รอบ รอบแรกตั้งใจจะไม่เร่งมากกลัวแผว เพราะซ้อมว่ายยาวมาน้อย ผ่านรอบแรกได้ตามที่วางแผน

เข้ารอบหลังมาเจอท้ายแถวของระยะ Sprint ที่จริงก็ตามที่คาดไว้ว่าก็น่าจะปล่อยตัวก่อนเวลาเหมือนกัน ไม่งั้นไม่น่าทันเจอ ก่อนจะพบว่านักกีฬาข้างหน้าช่างทำตัวเก๋ๆด้วยการเกาะทุ่นตีขาไปคุยไปกัน มีเกาะทุ่นนอนหงายตีขาไปเบาๆ บางคนก็ว่ายกบใส่เสื้อชูชีพสนุกสนาน (งานนี้อนุญาตทั้งบุยและเสื้อชูชีพอย่างเป็นทางการ) แอบประหลาดใจเกินกว่าที่คาดไปบ้าง แต่เนื่องจากคนไม่เยอะ และเค้าก้ไม่ได้เกาะกลุ่มอะไรกันมาก ยังพอว่ายแทรกไปได้เป็นระยะ อาจจะต้องออกแรงเพิ่มหน่อย แต่ข้อดีคือเล็งทางง่ายมาก เพราะทุ่นที่เยอะลอยเป็นแนวทางชัดเจน ไม่ต้องตั้งใจเล็งก็ไปตามทางได้สบาย ผ่านคนทีก็ดึงแขนแรงๆ3-4 แขนก็พ้นได้ จนครบสองรอบ ก็ได้ขึ้นจากน้ำอีกที่ (คนละจุดกับปล่อยตัว) ใช้เวลาว่ายไป 38 นาที ระยะ 1580ม. ไม่ได้ดีแต่ก็ปกติตามมาตรฐานตัวเอง



T1    

ขึ้นจากน้ำมีเจ้าหน้าที่ช่วยประคองแขน เดินขึ้นเนินเป็นทางดินไปยังสันอ่างเก็บน้ำระยะประมาณ 50 ม. จ๊อกต่ออีก 30 ม. ไปจุดจอดจักรยาน ไม่ได้ลงงานนาน เงอะงะนิดหน่อยตอนเปลี่ยนอุปกรณ์ ใส่หมวก แว่น เข็มขัด BIB เข็นจักรยานออกไปร้อยกว่าเมตร ถึงจุดขึ้นจักรยานก็เหยียบรองเท้าที่ล๊อกไว้กับรถโดยยังไม่ใส่ แล้วออกตัวไป



Bike

ออกจากจุดปั่นจะเป็นทางหักศอกขวาลงจากสันอ่างเก็บน้ำทันที ลงทางชันโดยที่เหยียบอยู่บนรองเท้า รู้สึกอันตรายจะต้องกดเบรกหนักไปตลอดทาง สุดทางลงต่อด้วยโค้งแคบซ้าย กว่าจะผ่านมาได้เหมือนอะดรีนาลีนก็จะล้นๆ ออกตัวมา 2km ถึงได้ใส่รองเท้า แต่ไม่ได้เก็บล๊อคให้เรียบร้อย เอาแค่พอปั่นได้คล่อง ก้มนานกลัวเป็นตะคริว ช่วงนี้เริ่มโดนคนออกตัวทีหลังแซงไป 3-4 คัน ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องตาม พยายามตั้งเพซช่วงแรกนิ่งให้ได้ก่อน 


เส้นทางปั่นเป็นทางขึ้นเนินซึมยาว ขาไป 10km กลับ 10km แล้วปั่น 2 รอบ ในรอบแรกเลยคิดว่าเป็นทางสำรวจเส้นทาง จะยังไม่ออกแรงสุดเอาซัก 75-85% ก่อน 5 km แรกไปได้สบายเป็นทางเกือบราบสลับเนินเบาๆ ช่วง 6-10 km ถึงเป็นเนินซึมยาว ไม่ชันมาก ยังใส่เฟืองใหญ่ได้ ไปมีช่วงที่ต้องใส่เกียร์เล็กสุดจริงๆอยู่ประมาณ 500 เมตร. ช่วง km 8-9 แล้วก็ชันลดลงหน่อยไปจนถึงจุดกลับตัว

หลังกลับตัวผ่านจุดให้น้ำแล้วเป็นทางลงยาว ได้พักขาไหลลงยาวๆ รอบแรกไม่รู้โค้ง เลยมีชะลอก่อนเข้าบางโค้งบ้าง เน้นปลอดภัย ลงเนินยาวหลายนาที แทบไม่ต้องเติม จนกลับมาได้ถึงซักครึ่งทางถึงเริ่มสลับทางราบ รักษาเพซนิ่งๆไป จนถึงจุดกลับตัวเพื่อเริ่มรอบสอง 



รอบสองคราวนี้พอรู้เส้นทางแล้ว ตรงไหนทางราบเราก็ออกแรงกดตุนไว้ ก่อนจะได้เบาหน่อยเน้นรอบขาตอนช่วงปีน ท้ายขาขึ้นรอบสองเริ่มมีอาการล้าบ้าง พอดีกับที่ได้กลับตัวแล้วพัก รอบนี้ขาลงปล่อยยาวได้ไม่ต้องเบรค เพราะไม่มีโค้งอันตราย เข้าโค้งสนุกไม่น่าน่ากลัว มีชะลอบ้างตอนรอจังหวะแซงคันหน้า ลงมาทางราบพยายามทำตัวแอโร่แล้วกดนิ่งๆยาวๆไปจนเกือบสุดทาง

ช่วงจักรยานแรกๆโดนรถ TT แซงไปนิดหน่อยในทางราบ พอทางเนินก็ได้ความคล่องตัวกว่า มีแซงคืนได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่รู้สึกคุมรถตอนลงเนินได้มั่นใจกว่า ถือเป็นเส้นทางที่เสือหมอบพอจะเอามาใช้ได้โดยไม่เสียเปรียบมาก ดีกันคนล่ะอย่าง

กิโลสุดท้ายปั่นกลับทางหลักไปวัดพระธาตุช่อแฮ โรลลิ่งเบาๆนิดหน่อย จนเนินสุดท้าย 200 เมตรขึ้นไปจุดเปลี่ยนกีฬา ถอดรองเท้าตอน 50 ม.สุดท้าย แต่จอดรถลงปกติ ไม่ได้กระโดดลง ไม่ได้ทำนาน กลัวพลาด 555



T2

เข็นจักรยานผ่านจุด mount ภรรยาและลูกมาถึงแล้วได้ทักกันนิดนึง ที่แขวนจักรยานตรงจุดนี้กว้างกว่าที่แรก จักรยานแขวนอยู่เยอะแล้ว แขวนรถ สลับหมวก ใส่รองเท้า แล้วก็วิ่งออกไปตรงทางออกมีแยกเล็กๆก่อนออกวัด หยิบน้ำที่ซุ้ม ถามทางน้องๆแล้วเลี้ยวตามคำบอก



Run

ออกจากวัดวิ่งลงเนินผ่านทุ่งนาเข้าหมู่บ้าน ทางวิ่งเป็นถนนแอสฟัลต์สองเลนไม่มีไหลทาง ขนาดแค่พอใช้งาน อยู่ติดประตูบ้านอย่างใกล้ชิด มีเด็กๆรอแตะมือนักกีฬาทุกคน กับคุณยายเอาเก้าอี้มานั่งหน้าบ้านรอเชียร์ น่ารักและกันเองมาก รู้สึกเหมือนซิตี้รันอยู่อำเภอไกลๆเมือง ตั้งเพซในใจว่าอยากวิ่งเร็วกว่าเพซ 5.30 แต่ช่วงแรกค่าหัวใจยังสูงมาก 190+ เลยต้องผ่อนกลัวไม่จบ



งานมีโต๊ะให้น้ำอยู่เกือบทุกกิโล เป็นน้ำเปล่ากับเกลือแรกแบบผสมน้ำของ Core

เพิ่งเคยกิน รสมันซ่าเย็นแปลกๆแบบไม่อัดลม อธิบายยาก

เจอพี่แฟนซีระยะสปรินท์ใส่ชุดไดโนเสาร์เป่าลมวิ่ง แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นเราคงไม่ไหว ตบมือเชียร์ก่อนแซงมา จากนั้นไม่กี่เมตรมีพี่(?) ฟอร์มวิ่งดีคนนึงแซงไปแบบพอไล่ได้ เลยพยายามเกาะตามไปได้ซักพักที่แถวๆเพซ 5.0 กะว่าลองดูเท่าที่ไหวว่าจะตามได้แค่ไหน


หลังผ่านกิโลสามทางวิ่งออกจากหมู่บ้านผ่านสู่ไร่ข้าวโพด แล้วเริ่มเป็นเนินซึมๆแบบที่พอวิ่งขึ้นไปได้ ลดความเร็วลงมาหน่อย แต่พยายามเกาะพี่คนหน้าอยู่ในระยะสายตา พอผ่านเนินแรกออกถนนใหญ่มีช่วงพักเป็นทางราบสลับทางลงก็โดนทิ้งไปไกล พี่เค้าเพซน่าจะ 4 กลาง-ปลาย คิดว่าวิ่งประคองความเหนื่อยไว้ดีกว่า ไม่ควรฝืนตามต่อ กิโล 4 ยังมีอีกเนินที่วิ่งได้เหมือนกัน ก่อนจะเข้าสู่เขตวัด ผ่านรอบแรกด้วยความเหนื่อยสุดเท่าที่ประคองไหวแบบโซน 4 กลางๆ




เข้ารอบสองรู้เส้นทางแล้ว กะจังหวะออกแรงง่ายขึ้น คิดว่าวิ่งได้ใกล้เคียงกันไม่แย่กว่ารอบแรก แม้จะไม่ได้แซงใครเพิ่มอีกแล้ว (สปรินท์วิ่งรอบเดียวน่าจะจบหมดแล้ว) แดดแรงขึ้นเพราะใกล้ 9 โมง ยังประคองเพซ 5.0-5.15 ได้ ตามแต่ภูมิประเทศ ทำได้ดีกว่าที่คิด ก็สมกับที่ไปวิ่งอย่างเดียวมาเป็นปี (แต่ว่ายปั่นก็แย่ลงหน่อยเป็นปกติ)

ผ่านจุดให้น้ำสุดท้าย หันไปมองหลังเช็คนักกีฬาคนอื่น แค่ไม่อยากโดนแซงแถวเส้นเดี๋ยวรูปไม่สวย ถ้ามีคนมาไล่ทันกะว่าจะปล่อยให้แซง แต่ก็ยังไม่มีใครใกล้ๆ วิ่งขึ้นเนินสุดท้ายขึ้นวัดมองเห็นนาฬิกาไกลๆ 2.59 h. โหมีกำลังใจทำ sub 3 (แต่เข้าใจผิดเวลานับยังไงก็ยัง งงๆ) เลี้ยวผิดนิดนึงก่อนถึง กลับตัวมาเข้าเส้น ประมาณ 3 ชม.เป๊ะ 



เข้าเส้นแล้ว หันไปทักกองเชียร์ก่อนเดินเลยไปแกะชิป รับเหรียญ ไปถ่ายรูปกับภรรยาและลูก ได้เจอพี่แฟนซีไดโนเสาร์เข้าเส้นมาใกล้กัน เลยเดินไปทักอีกครั้งแล้วขอถ่ายรูปด้วย จากนี้ตั้งใจจะพักแล้วรอไปวิ่งรอบหลังกับเพื่อนแบงค์ เป็นคูลดาวน์และรับผิดชอบที่ชวนเพื่อนมาไกล เลยให้แม่พาลูกไปเล่นน้ำรอที่โรงแรม เราวิ่งไปคุยกันไปอีกสี่สิบกว่านาทีก็จบ เข้าเส้นอีกรอบมาประมาณ 10 โมง


มีเซอร์ไพรซ์เล็กน้อย พอเดินไปดูป้ายเวลา เห็นมีชื่อติดอยู่ AG 40-49 เป็นอันดับ 3 ยังไม่ทันหายงง ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่บนเวทีเรียกขานชื่อให้ไปขึ้นเวที จังหวะพอดีเหมือนละครซิตคอม ยกมือแล้วก็วิ่งเหวอๆไปขึ้นเวทีแบบตกใจ ลนตลอดเวลาตั้งแต่ก่อนขึ้นหรือบนเวที รับถ้วยกันเสร็จก็กล่าวแสดงความยินดีกับคนอื่นแล้วก็กลับมาคุยกันว่า อะไรมันจะเป๊ะป่านนั้น นี่ถ้าวิ่งกันช้ากว่านี้อีก 2 นาที คงไม่ทันมาเค้าเรียก เวลาพอดีเกิ๊น (แน่นอนว่าด้วยเวลาที่เกิน 3 ชม.มันก็ออกแนวประหลาดใจแล้วก็เขินว่าชั้นไปอยู่ตรงนั้นได้ไง ไม่ได้ใกล้เคียงเวลา PB ตัวเองเลยด้วยซ้ำ เอ๊ะเค้าทำอันดับผิดเปล่า แต่ก็นั้นแหละงานคนน้อยๆผสมโชคดีคนเก่งกว่าเราไม่ค่อยมา ก็เลยอาจจะพอเป็นไปได้มั้ง -..-)



สรุปจบมาเป็นคนที่ 13 คนที่ 5 ของรุ่น เป็นคนแรกที่เวลาเกิน 3 ชม. -.-” ไล่อันดับไปมา โชคดีสุดตรงที่มี Overall 5 รางวัล คนเก่งจริงๆเลยไปติด All กันหมด เลยเหลือที่ให้ไปยืนเขินๆขำๆได้ จากปกติถ้าตั้งใจซ้อมมาก็จะมีจะเฉียดๆบ้าง กลายเป็นมาได้ตอนไม่ได้ซ้อมจริงจังกับไม่ได้ซีเรียสเวลาซะอย่างนั้น


จบงานจริงๆซะที จะหารถกลับไป T1 ก็ไม่มีแล้วเพราะรถสองแถวที่บริการหมดตั้งแต่ 10 โมง ไม่มีทางอื่นก็เลยต้องปั่นจักรยานไปเอารถมารับแบงค์ (น่าเสียดายจักรยานมีปัญหาเลยไม่ได้ทำเวลา) กว่าจะได้ไปถึงโรงแรมก็เกิน 11 โมงแล้ว รีบอาบน้ำเก็บของ แล้วแยกย้ายกันเดินทางกลับ



สรุป

จบแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมคะแนนรีวิวงานนี้ถึงดี สถานที่สวยทั้งเส้นทางว่าย-ปั่น-วิ่ง เส้นทางแข่งน่าสนใจ มีทั้งทางราบให้ทำเวลาและเนินชันน้อยแบบที่ไม่ทรมาณ ปิดถนน-กั้นรถดี  การจัดการมีมาตรฐานระดับนึง แบบงานแข่งกีฬาภายในจังหวัด แต่ยังคงความชิลและกันเองของทั้งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และคนในพื้นที่ เอาเป็นว่าถ้าคิดเงินค่าสมัครก็ยังคุ้มที่จะมา แต่มันฟรี นี่ยิ่งอยากมาเพิ่มไปอีก 555


งานไตรยังสนุกเหมือนที่จำได้เลย จะบริหารจัดการแรงและเวลาของทั้งสามชนิดยังไงให้ลงตัว รูปแบบสนามที่ไม่ค่อยมีที่ไหนซ้ำกัน ก็ทำให้ยังอยากไปลองสนามใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ  ไม่ได้เล่นมานานก็คิดถึงเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้บ่อยเท่าแต่ก่อน แต่ก็ยังจะหาทางกลับมาลงเล่นอีกตามความคิดถึงล่ะนะ     



พาลูกมาดูงานไตรกีฬาครั้งแรก น่าจะยังไม่ค่อยเข้าใจ รู้แต่ว่ามาเชียร์ป๊าแข่งกีฬา แต่ก็อยากให้เห็นความสนุกกับความพยายามของนักกีฬา แล้วซึมซับบรรยากาศติดไป เผื่อจะส่งต่อความรู้สึกอยากเล่นสนุกอะไรแบบนั้นให้ได้บ้าง แต่เราคงไม่ได้ไปบังคับเค้าทำอะไรที่ไม่ชอบอ่ะเนอะ (นอกจากอยากให้ว่ายน้ำเป็นติดตัวไว้ก็พอ)