วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Tour of Chanthaburi 1st ลงงานแข่งครั้งที่ 1



          หลังออกทริปก๊อกๆแก๊กๆซ้อมปั่นไปเรื่อยซักพักก็อยากจะหาบรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมให้เรามีเป้าหมายในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ในตอนที่เปิดเวปหาทริปก็ไปเจอหน้ารับสมัครงานแข่งที่จันทบุรีในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะลงตัว เนื่องจากบ้านบุพการีอยู่จันทบุรีเป็นจังหวัดที่คุ้ยเคย สถานที่ก็รู้จัก ระยะก็พอไหว เลยแทบจะตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่า รายการนี้แหละเปิดรอเราไปลงอยู่(คิดเอง) จากข้อมูลการแข่งแบ่งรุ่นและระยะแล้วสรุปได้ว่าเริ่มจากรุ่นมือใหม่ไม่จำกัดอะไรเลย ระยะทาง 50 กม.เป็นไปได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ไม่น่ามีปัญหาการจบในเวลาไปถ่วงผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ซึ่งคิดถูกมาก เพราะด้วยความสามารถ ณ ตอนนั้นจะให้ไปลง OPEN หรือแม้แต่รุ่นอายุตัวเองแล้วจะเกาะไปได้ตลอดเวลาและเส้นทางแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

          ตัดสินใจได้ก็หาเวลาแวะไปจันทบุรีซักทีจะได้ไปดูเส้นทางและลงสมัครกับร้านจักรยานที่เป็นตัวแทน พร้อมแสดงความมุ่งมั่นด้วยการออกไปปั่นลองเส้นทางพร้อมคุณมารดาซึ่งมีจักรยานเสือภูเขาอยู่หนึ่งคัน วันที่ 7/12 เกือบ 8 โมง ออกตัวไปจากบ้านซึ่งห่างจุดสตาร์ทประมาณ 8 km. เส้นทางจัดงานเริ่มออกตัวที่ อบจ.จันทบุรีซึ่งเป็นผู้จัดงาน วนไปตามเส้นทางสุขุมวิทสายหลัก 5 km.ก่อนจะวกไปทางรองที่ถนนค่อนข้างดีแต่มี 2 เลนและไหล่ทางแคบ รถบรรทุกวิ่งเป็นส่วนมากแม้จะไม่ใช่ทางที่รถผ่านไปมาเยอะแต่ก็พอได้เสียวอยู่เรื่อยๆ สภาพพื้นที่เป็นทางขึ้นลงเนินขนาดย่อมแทบตลอดสาย กินแรงมากกว่าปั่นทางราบพอสมควรสำหรับคนที่วันๆอยู่แต่แถวกทม.เป็นหลัก ทางเปลี่ยวบ้างบางช่วงแต่วันซ้อมก็ยังพอหาร้านชำขนาดเล็กแวะได้ตลอดทาง พยายามแวะทุกชั่วโมงให้ได้พักเนื่องจากคุณมารดาไม่เคยปั่นทางยาวขนาดนี้มาก่อน ก่อนจะวกกลับมาถึงจุดเดิมด้วยความเหนื่อยขนาดต้องตามรถมารับเพราะถ้าไปต่อถึงบ้านจะหนักเกินไป ยังไงก็พอมั่นใจได้ว่าจบได้ตามเวลาที่กำหนด (มีเวลาให้ 3.30 ชม.)

ไปซ้อมซะหน่อย ไหล่แทงแคบไปนิดเจอรถบรรทุกก็หลบพี่เขาก่อน

          วันลงทะเบียน 21/12 จุดลงทะเบียนสับสนเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีการแจ้งชัดเจนและพื้นที่อบจ.แห่งใหม่ก็ค่อยข้างกว้าง วนไปตามจุดต่างๆหลายที่ จนเห็นรถที่มีจักรยานห้อยอยู่จอดกันหลายคันถึงได้ไปถูก ด้วยความไม่เคยก็ใช้เวลาทำความเข้าใจกับการรับเบอร์บ้างแต่ไม่ยาก เพราะคนยังไม่มาก แม้จะเป็นการจัดงานครั้งแรก แต่กลุ่มผู้จัดค่อนข้างมีประสบการณ์แข่งมามากก็มาคอยแนะนำและรับหน้ารับคำบ่น (ทราบทีหลังว่าเป็นนักปั่นระดับประเทศ พยายามจะสร้างกิจกรรมและชักชวนคนที่บ้านเกิดให้มาปั่นจักรยาน ต้องลงแรงลงเงินไปพอสมควรเพราะงบจาก อบจ.เองก็จำกัด ถือว่าน่าสนับสนุน) ได้เบอร์ไปก็เอากลับไปติดจักรยาน หยอดโซ่ครั้งแรกตั้งแต่ขี่ ถอดของไม่จำเป็นออก แล้วก็สบายๆวันพักผ่อน

Start-Finish Point

          วันแข่งจริงตื่นมา 7 โมง หาไรเบาๆกินแล้วไปที่จุดปล่อยตัว เนื่องจากปล่อยตัวค่อนข้างสาย 9 โมง เลยมีเวลาก่อนพอสมควร กินปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ข้าวต้มที่มีแจกอีกหน่อย(กินเยอะจนเริ่มตัวหนัก) พยายามดูว่าคนอื่นทำไรกันบ้างก็ทำตามเขาไป วอร์มนิดหน่อย เข้าห้องน้ำ เช็ครถตามเรื่อง ใกล้เวลาเริ่มพิธีการเลทนิดหน่อยแต่ไม่น่าเกลียด แล้วก็ไปต่อคิวรอรอบ แน่นอนว่ารุ่นมือใหม่ออกเป็นกลุ่มสุดท้าย เราก็ไปเกาะแนวหลังเพราะไม่ได้คิดจะวัดกับใคร (ที่จริงีือวัดไม่ไหว รุ่นมือใหม่นี่หมอบคาร์บอน ล้อขอบสูง ชุดขับบนๆอื้อเลย ดีนะตอนนั้นยังไม่รู้จักเลยไม่แป้ว)

มีบรีฟก่อนปล่อยตัวเล็กน้อย ทุกคนลากจักรยานมาฟังดีว่าสถานที่กว้างขวาง

ต่อคิวออกตัว ขอไปอยู่แนวหลัง ให้ขาแรงไปก่อน

          หลังออกตัวกลุ่มนำเร่งออกไปไกลลับตาอย่างไว เราก็ค่อยๆไต่จากแนวหลังขึ้นไปตามความเร็วที่ปั่นปกติบวกไปนิดหน่อยประมาณ 32-35 kph. ผ่านคุณป้าคุณอาก็ได้ยินเสียงลอยตามมาว่าพวกนี้มันมือใหม่อะไรกันนี่ แหมกลุ่มนำเค้าไปไล่แซงเสือภูเขาที่ปล่อยตัวก่อนจนทันแล้วนะคร๊าบ พวกผมอ่ะใหม่จริงจักรยานเพิ่งซื้อได้ 2 เดือน จนถึงทางแยกจากถนนสายหลัก ทางเริ่มเป็นโรลลิ่งขึ้นลง กลุ่มเริ่มขาดออกจากกัน จะไปเกาะคันหน้าก็ช้ากว่าเรา พอไล่เร็วไปถึงกลุ่มต่อไปก็รอบขาเราก็นำไปแล้ว สรุปค่อยๆปั่นเดี่ยวแซงไปได้ด้วยความไม่มีประสบการณ์ ยังออมแรงอะไรไม่เป็น บรรยากาศมันพาให้ฮึกเหิมไปเรื่อย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงนักปั่นทิ้งห่างกันแบบสังเกตได้ เนื่องจากนักปั่นส่วนใหญ่มือใหม่ไม่เน้นปั่นกลุ่ม ไม่มีผลัดกันนำผลัดกันตาม มีเริ่มแซงกลุ่มเสือภูเขากลุ่มท้ายได้บ้าง เนินเริ่มส่งผลกับนักปั่นที่นิยมทางราบทำความเร็วกันไม่ได้เลย เริ่มเหนื่อยจริงจังความเร็วลดลงเหลือเฉลี่ย 27-30 kph. กล้ามเนื้อหน้าขาล้าเพราะใส่เฟืองวงใหญ่มาตลอดทางเพราะทางขึ้นลงเยอะแต่ไม่อยากเปลี่ยนเฟืองหน้าบ่อย กินเกลือแร่เพิ่มขึ้นกลัวตระคริวจะมา

เสือหมอบ 80 โล / เสือภูเขา+มือใหม่ 50 โล / VIP 10 โล

          ครบชั่วโมงเลยครึ่งทางมาได้หน่อยทางยังโรลลิ่งแต่ไม่ชันและยาวขึ้น พยายามหาจังหวะกินบาร์แม้จะเคยลองกินขณะปั่นมาบ้างแต่ด้วยความเหนื่อยกว่าปกติรู้สึกได้ว่ามันมีอาการดันขึ้นมาผะอืดผะอมพอดู ต้องระบายด้วยการพยายามเรอซึ่งช่วยได้บ้าง ประมาณช่วง km.35 เจอกลุ่ม OPEN ที่ออกตัวไปก่อนประมาณ 25 นาทีปั่นไปทาง 80 km. แซงไปในจุดทางของสองกลุ่มบรรจบกัน นึกในใจ นี่สินะของจริง ซึ่งที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่กลุ่มนำด้วยซ้ำ ยังต้องฝึกอีกเยอะ เข้าช่วง 10 km.สุดท้ายเริ่มมีป้ายบอกระยะทางที่เหลือ มาถูกเวลาพอดีเพราะแรงเริ่มหมด จนช่วง 5 km.สุดท้ายทางออกมาบรรจบกับถนนสุขุมวิทสายหลัก เห็นได้ว่านักปั่นที่มีประสบการณ์เริ่มเร่งความเร็วขึ้น ส่วนเราแค่ประคองความเร็วก็เต็มที่แล้ว ค่อยๆถูกคนข้างหลังแซงห่างออกไปแบบไม่สามารถไล่ไปเกาะได้ แถมเส้นชัยอยู่บนเนินทางเข้าอบจ.ทุกคนพยายามสปรินท์เข้าสวยๆ แต่อย่าว่ายืนปั่นเลย ตอนนี้เร่งรอบขึ้นก็ไม่ไหวแล้ว ประคองตัวเข้าเส้นไปได้แบบเหนื่อยๆ ดูเวลาก็จบที่ประมาณ 1:35 ชม.  เร็วเฉลี่ยประมาณ 30 km.ได้ใกล้เคียงที่ตั้งใจไว้ก็โอเค (AV 30ได้อันดับ 56 ของมือใหม่เอง) หาอะไรกินเหลือแต่ข้าวกับหมดซึ่งหิวๆกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว รอเวลาแลกเหรีญที่ระลึก พอคุณมารดาปั่นตามเข้ามาที่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า(เก่งมากเพราะปกติปั่นน้อยและรถเสือภูเขาเดิมๆหนักมากกก) ถ่ายรูปที่ระลึก รอเหรียญ แล้วก็ชวนกองเชียร์ครอบครัวไปหาอะไรกินกันมีความสุขแบบหมดแรงๆ

แจกเหรียญที่ระลึกอย่างเดียว แต่แอบมีพลอยเม็ดเล็กติดอยู่ดูมีมูลค่าเพิ่ม

ชอบ

- การจัดเตรียมงานทำได้ดี คงเป็นเพราะผู้ดูแลก็เป็นนักปั่นซึ่งจะเข้าใจว่านักปั่นต้องการอะไร ระบบการลงทะเบียน การใช้ชิปเวลาเป็นระบบพอสมควร ขอชมในฐานะการจัดงานครั้งแรก

- ระหว่างทางจัดให้มีกองเชียร์เป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่มากเล่นดนตรี ยืนตบมือเชียร์บนยอดเนิน ด้วยความที่ไม่เคยร่วมงานที่มีบรรยากาศแบบนี้มาก่อนรู้สึกได้กำลังใจเพิ่มขึ้นมาก งานนี้นำรายได้มอบให้กลุ่มโรงเรียนที่เส้นทางแข่งผ่านเรายิ่งเต็มใจยินดีที่ได้ร่วมทำบุญ ถ้าต่างฝ่ายต่างส่งความสุขเล็กๆน้อยๆต่อกันได้แบบนี้ก็ปลื้มครับ (แค่หวังว่าเด็กๆจะไม่ร้อนมากเกินไปที่ต้องมายืนตากแดดน่ะนะ)

ไม่ชอบ

- เส้นทางที่เลือกใช้ถนนถนนหลายจุดไม่ค่อยดี แม้จะประชาสัมพันธ์ว่าซ่อมแล้วก็เป็นเพียงเอาหินกรวดโรยแล้วนำรถมาบดอัด รถยางแคบลื่นมากโดยเฉพาะช่วงโค้งและลงเนิน เข้าใจว่าพยายามแล้วคงเป็นวิธีดีสุดที่จะทำได้ในเวลาและงบจำกัด

- ปล่อยตัวสายไปหน่อย 9.00 น. นักจักรยานส่วนใหญ่ตื่นเช้าอยู่แล้วไม่น่าเป็นปัญหา อาจเป็นเพราะต้องรอประธานงานหรือต้องเผื่อเวลาให้อาหารย่อยก่อนปั่น (แต่คนจริงจังเขาเผื่อเวลาให้ตัวเองตื่นมากินได้อยู่แล้วนี่ครับ) ส่งผลให้คนจบสายๆร้อนมาก โดยเฉพาะมือใหม่และผู้สูงอายุที่ปล่อยตัวทีหลังแล้วยังปั่นความเร็วได้ไม่มาก

- น้ำและอาหารดีช่วงเช้าก่อนปล่อยตัว แต่หลังแข่งจบไม่พอกิน คนนอกมาต่อคิวกันเยอะ ถ้าไม่พกไรสำรองมากินบ้างมีหงุดหงิด

- พิธีการช่วงหลังแข่งเริ่มและดำเนินไปค่อนข้างช้า 

          สรุปเป็นงานที่โดยรวมก็ยังน่าประทับใจ มีอะไรดีๆอยู่ชดเชยได้พอสมควร ถ้ายังมีครั้งต่อๆไป คนจัดไม่ท้อหรือเบื่อซะก่อนก็ยินดีไปซ้ำอีกแน่ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น