Challenge triathlon Samed-Baan phe 2015 (Swimathlon only)
ทุกปลายปีมีงานที่จัดโดยสมาคมไตรกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นงานแข่งไตรกีฬาที่มีเส้นทางช่วงว่ายน้ำพิเศษอยู่ซักหน่อย คือแทนที่จะว่ายออกจากฝั่ง-กลับตัว-เข้าฝั่งมายังจุดเดิม
ก็เปลี่ยนเป็นว่ายจากจุด A-B ซึ่งจุดที่ว่าก็คือหาดด้านทิศเหนือของเกาะเสม็ด-ไปยังชายหาดฝั่งบ้านเพ
ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนที่จะไปปั่นจักรยานและวิ่งต่อ ซึ่งงานนี้เราเลือกได้ว่าจะว่ายน้ำอย่างเดียวหรือแข่งครบเป็นไตรกีฬาเลย
แน่นอนประเมินความสามารถตัวเองแล้วตัดสินใจได้ว่า ว่ายน้ำอย่างเดียวให้รอดก่อนก็แล้วกัน
แนวเส้นทางว่ายน้ำเกาะเสม็ด-ฝั่งบ้านเพ
ด้วยความที่ต้นทุนด้านว่ายน้ำไม่ได้มาก
เพิ่งมาฝึกซ้อมช่วงกายภาพบำบัดสะโพกร้าวตอนกลางปี แล้วก็ยังคงว่ายต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
ค่อยๆยืดระยะเพิ่ม จนได้ไกลสุดคือประมาณเกือบ 4 กม.แบบว่ายไปพักไปในสระว่ายน้ำ
(โดยไม่สนเรื่องเวลาใดๆ
ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าต้องว่ายได้เพซเท่าไหร่ถึงเรียกว่าเร็ว) แล้วก็ดันพักว่ายน้ำไปซ้อมวิ่งฟลูงานกรุงเทพมาราธอน
ตามเป้าว่าอยากกลับไปวิ่งฟลูให้ได้เหมือนเดิมก่อน โดยก็หวังลึกๆว่าจะฟื้นตัวได้ทันพอจะมาลงงานว่ายน้ำข้ามเสม็ดต่อ
เพราะจัดห่างกันแค่สองสัปดาห์ ไม่เหลือเวลาซ้อมแล้วก็อาศัยบุญจากซ้อมวิ่งเอา
เพราะมีแค่ปีละครั้งพลาดแล้วรออีกนาน
ต้นธันวาคมมาถึงอย่างรวดเร็ว
ตัดมาวันบรีฟซึ่งตั้งใจจะมาสมัครหน้างานด้วย ปรากฎว่าถึงเวลานัด 17.00 น. ยังหาจุดจัดงานไม่เจอ
เพราะไม่รู้จักทาง แถมบริเวณใกล้เคียงมีงานออกร้านประจำปีคนเยอะรถติดมาก ขับวนไปมากว่าจะถึงปรากฎว่าบรีฟจบไปแล้ว
แหงสิก็จะมืดแล้วนิ (-.-) ยังดีว่ามาว่ายน้ำอย่างเดียวดูเอกสารกับแผนที่และถามนักกีฬาท่านอื่นเอาก็พอไหว
งานจัดกันแบบง่ายๆกันเองๆตามสไตล์สมาคมไตร เดินไปเตนท์ กรอกใบสมัคร จ่ายเงิน
รับหมวก-เสื้อ เรียบร้อย แวะถามข้อสงสัยอีกเล็กน้อยกับผู้จัด-อำนวยการงาน ครูอู๊ด (นายกสมาคมไตรฯไทย)
เป็นการคุยกันครั้งแรกก่อนที่จะได้มาเป็นลูกศิษย์ครูในภายหลัง แวะหาอาหารเย็นกิน
ยัดเต็มที่กะว่าโหลดแบบวิ่งมาราธอน แล้วกลับไปพักผ่อน
เช้ามารายงานตัว เขียนเบอร์
ลงไตรกีฬาด้วยก็ได้ แต่คราวนี้ขอว่ายให้รอดก่อน
เช้าวันงานเดินทางมาถึงเกือบ 6.20 น.ก็ต้องรีบแล้ว เพราะ 6.30 น. ต้องนั่งเรือของชาวประมงในพื้นที่ออกไปจุดปล่อยตัวที่เกาะเสม็ดก่อน
ซึ่งตรงเวลามาก (นักไตรกับนักวิ่งทางไกลปกติวินัยดี เลยเป็นคนตรงเวลา 55+) เขียนเบอร์และจัดของอย่างรวดเร็วก่อนเดินไปหาเรือขึ้น เลือกลำที่ดูไม่ได้นั่งกันเป็นทีมเพราะมาคนเดียว
ระหว่างนั่งเรือไปเกือบครึ่งชั่วโมงเป็นโอกาสดีที่ได้คุยแลกเปลี่ยนกับนักกีฬาท่านอื่นๆ
ซึ่งลำนี้แข็งๆกันทั้งนั้น ไม่มีมือใหม่(แบบเรา) ผ่านไตรระยะแสตนดาร์ทกันมาหมดแล้ว
มีพี่ท่านนึงดูแล้วขอใช้คำว่า เก๋ามาก เป็นคนเดียวในลำที่ว่ายแล้วไปปั่นและวิ่งต่อครบไตร
มางานนี้หลายครั้งแล้ว ระหว่างนั่งเรือก็ดูคลื่น ดูทิศ ดูลมไปเรื่อย อืม วิวก็ดีแหละ
แต่ไกลกว่าดูจากบนฝั่งเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
นึกถึงเพลงนี้กว่าครั้งไหนๆ " เรือเล็กควรออกจากฝั่ง "
เรือใช้เวลาไม่ถึง 30
นาทีก็มาถึงจุดปล่อยตัวบริเวณชายหาดของบ้านทะเลรีสอร์ท ตามแผนที่คือหาดเหนือสุดของเกาะ
น่าจะเป็นจุดที่เหมาะและใกล้ฝั่งที่สุดในการปล่อยตัว
เวลาที่เหลือคือรอการปล่อยตัวตรงตามเวลาในกำหนดการ
ซึ่งมีเวลาเหลือเฟือมากกว่าหนึ่งชั่วโมง เริ่มมีคนลงน้ำไปวอร์ม
ส่วนใหญ่ก็นั่งพักหรือคุยกันบริเวณชายหาด
ได้คุยรับความรู้จากพี่ๆน้องๆนักกีฬาท่านอื่นอีกนิดหน่อยพร้อมได้ขอใช้ที่ฉีดแว่นกันฝ้าและวาสลีนทาตัว
ช่วยกันแมงกระพรุนได้(ความรู้ใหม่ ต่อไปนี้ต้องพก) นั่งๆเดินๆแกร่วๆไปมารอเวลา
(ระยะขนาดนี้แผนปกติคือเก็บแรงไว้ ค่อยไปวอร์มเอาช่วงแรกเลย ไม่วอร์มไปก่อน
กะไม่ถูกจริงๆว่าใช้เวลาเท่าไหร่คิดว่าน่าจะมากกว่า 3 ชั่วโมง
เลยจะไปเรื่อยๆไม่เร่ง ขอแค่จบ) 8.30น. ประธานและสปอนเซอร์ PTT มาถึง เริ่มเปิดงาน
ได้เวลาปล่อยตัวแล้ว
บรรยากาศจุดปล่อยตัวบนเกาะ
เช้านี้สนุกมากครับ มีโอกาสเจอกันอีกนะครับ
ได้เวลาแล้ว ไปกันก่อนเลยครับ
I really like this moment
ทางงานแข่งจัดทุ่นลอยสีสด ทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ม. ผูกไว้ทุก 500
ม. ให้เป็นจุดนำสายตาและนำทาง มีเรือของชาวประมงท้องที่จอดระหว่างเส้นทาง ทุก 200-250
ม. Stand by คอยให้บริการน้ำดื่ม นักกีฬาสามารถเกาะเรือพักหรือเหนื่อยจริง
ขึ้นเรือไปพักแล้วค่อยลงว่ายต่อก็ยังได้
ถือว่ามีการดูแลความปลอดภัยในระดับน่าพอในและเพียงพอ (งานนี้อนุญาตให้ใส่ทุ่น Safety buoy ได้ตามสะดวกครับ)
อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย นี่ตอนทยอยเก็บแล้ว
หลังออกตัว เริ่มว่ายช่วงแรกช้าๆเป็นการวอร์มและปรับตัวกับคลื่นลม
และความเค็ม พยายามรักษาจังหวะช่วง 30 นาทีแรกให้ช้ากว่าปกตินิดหน่อย
พบว่าการว่ายในทะเลที่ห่างฝั่งนี่ว่ายง่ายกว่าที่คิด คลื่นน้อยและเบา ลอยตัวง่าย
ถ้ายังออกแรงก็ไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ น้ำค่อนข้างใส มองไปได้ไกล
ติดเรื่องการเล็งแนวทุ่นที่ถ้ายกหัวขึ้นดูทิศขณะอยู่ในท้องคลื่นช่วงต่ำจะมองไม่เห็นเพราะยอดคลื่นบัง
ต้องยกหัวขึ้นบ่อยหากจะเล็งทางให้แม่น และทิศของคลื่นลมมีผลให้ว่ายทางทิศที่เล็งได้ยากขึ้น
กินแรงมากขึ้น
ใกล้ครบหนึ่งชั่วโมงยังอยู่ในช่วงที่ไปได้เรื่อยๆ พยายามรักษาระดับการออกแรงให้ไม่ให้ถึงขั้นเหนื่อยหอบ
ตามปกติจะต้องเริ่มเติมพลังงาน แต่งานนี้ต้องอยู่ในน้ำตลอดเวลาการพกซีเรียลบาร์มากินตามปกติน่าจะไม่เหมาะ
เลยเลือกมาเป็นเยลลี่ พกมาตั้งใจกินทุก 40-60 นาที
เวลาแกะก็ใช้การลอยคอแล้วถีบตัวกลับหลัง ซึ่งใช้ได้ดีกับการเคลียร์ฝ้าที่ขึ้นในแว่นด้วย
และหลังจากนั้นต้องเริ่มเกาะเรือเพื่อดื่มน้ำ
ถือเป็นการล้างความเค็มออกจากปากได้บ้าง
หลังจากว่ายได้ชั่วโมงครึ่ง สังเกตรอบตัวคาดว่าน่าจะมาได้ครึ่งทางแล้ว ประมาณ
10 โมงแดดเริ่มร้อน เริ่มรู้สึกถึงการเกร็งที่เท้าเป็นจังหวะๆ เป็นอาการที่นักกีฬาสาย
Endurance รู้จักดีคือ ตะคริวกำลังจะมา อืมมม วิ่งหรือปั่นยังหยุดข้างทางพักได้
ลอยอยู่กลางทะเลนี่ไม่ได้แฮะ ต้องผ่อนแล้วควบคุมการออกแรงให้ดี
เริ่มจากเปลี่ยนไปว่ายกบให้บ่อยขึ้น นานขึ้น กลับไปท่าฟรีสไตล์ได้ไม่นานก็ต้องกลับมากบใหม่
ไม่สามารถเร่งได้กว่านี้เพราะเท้าจะเกร็งถี่ขึ้น ช่วงนี้เริ่มมีคนว่ายแซงไปบ้าง
แต่ก็ยังยึดเป้าหมายว่าขอจบโดยสวัสดิ์ภาพพอ ขอไม่ทำอะไรเสี่ยงเพิ่ม
เน้นประคองตัวไป
ผ่านสองชั่วโมงเติมพลังงานกับแวะเกาะเรือเพื่อดื่มน้ำอีกซักที เริ่มกลับมาว่ายท่าฟรีสไตล์ได้นานขึ้น
และฝั่งก็เริ่มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เห็นคนว่ายถึงฝั่งลิบๆ ทำให้มีกำลังใจไปต่อ
มองดูนาฬิกาเช็คระยะทางพบว่าระยะนิ่งไปตั้งแต่ตอน 3 กม. ไม่น่าแปลกใจ
การ์มินจับสัญญานหลุดตอนว่าย Open
water นี่ธรรมดามาก
แค่เสียดายนิดหน่อยเพราะระยะหายกับใช้อ้างอิงไม่ได้ ว่ายต่ออีกซัก 15 นาที ที่ระยะ
300-400 ม.จากฝั่งก็มองเห็นพื้นใต้น้ำ อยู่ในระยะที่อีกเดี๋ยวจะเหยียบเดินไปได้
ด้านหน้าก็มีนักกีฬาคนอื่นเดินเข้าหาดไปเรื่อยๆแล้ว มั่นใจได้ จบแน่ๆ
เท้าแตะพื้นก็เปลี่ยนไปใช้การเดินแทน แต่เดินได้ซักพักก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เร็วกว่าว่ายเลย
ก็สลับไปว่ายบ้างเดินบ้างจะได้ไม่ร้อนจากแดดส่องหลังเกินไปด้วยในช่วง 10
นาทีสุดท้าย จนมาถึงหาดขึ้นจากน้ำในที่สุด เห็นถังเก็บน้ำล้างตัวตั้งอยู่แวะไปตักราดล้างตัวสบายๆก่อนเดินขึ้นฝั่ง
แล้ววิ่งเหยาะไปผ่านซุ้มเส้นชัยแบบยิ้มๆ
ถึงแล้ว ทางขึ้นฝั่ง
ซุ้มเส้นชัย นักกีฬาทุกประเภทเข้าเส้นชัยเดียวกัน สบายๆ
ผ่านเส้นมาแวะรับเหรียญ รับอาหาร เรียบๆง่ายๆ เดินย้อนไปรับของฝาก(ใส่ถุงมาจากเกาะ)
ใช้เวลาดูบรรยากาศการแข่งที่ยังมีแข่งไตรต่ออีกซักพักใหญ่ ก่อนแวะเปลี่ยนชุดแล้วเตรียมตัวกลับ
ของที่ระลึก สีสันบาดตา
สรุปใช้เวลาไป 2:25 ชม. ในการว่ายน้ำในทะเลซึ่งไกลสุดที่เคยว่ายมา สนุกมาก ชอบบรรยากาศสบายเป็นกันเอง
ระยะทางและเส้นทางอยู่ในระดับที่เป็นไปได้ถ้าซ้อมมา
ความเหนื่อยน่าจะอยู่ประมาณฮาร์ฟมาราธอนเท่านั้น คนออกกำลังกายประจำแล้วซ้อมมาทำได้แน่ และที่สำคัญเหมือนที่หลายคนพูดไว้คล้ายๆกันว่า
ต่อไปนี้เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังได้แล้วว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต
ผมเคยว่ายน้ำข้ามเกาะเสม็ดมา”