วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

#CHALLENGE ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมเคยว่ายน้ำข้ามเกาะเสม็ดมา

Challenge triathlon Samed-Baan phe 2015 (Swimathlon only)


      ปกติเราไปเที่ยวเสม็ดกันยังไง  นั่งรถไปที่ท่าเรืออำเภอบ้านเพแล้วขึ้นเรือใหญ่หรือนั่งสปีดโบทแป๊บเดียวถึงเกาะ เช้าไปบ่ายกลับก็ยังได้ แต่ยังมีอีกวิธีเป็นทางเลือกให้ลอง ว่ายน้ำข้ามทะเลกลับมาฝั่งเลยครับ

     ทุกปลายปีมีงานที่จัดโดยสมาคมไตรกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นงานแข่งไตรกีฬาที่มีเส้นทางช่วงว่ายน้ำพิเศษอยู่ซักหน่อย คือแทนที่จะว่ายออกจากฝั่ง-กลับตัว-เข้าฝั่งมายังจุดเดิม ก็เปลี่ยนเป็นว่ายจากจุด A-B ซึ่งจุดที่ว่าก็คือหาดด้านทิศเหนือของเกาะเสม็ด-ไปยังชายหาดฝั่งบ้านเพ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนที่จะไปปั่นจักรยานและวิ่งต่อ ซึ่งงานนี้เราเลือกได้ว่าจะว่ายน้ำอย่างเดียวหรือแข่งครบเป็นไตรกีฬาเลย แน่นอนประเมินความสามารถตัวเองแล้วตัดสินใจได้ว่า ว่ายน้ำอย่างเดียวให้รอดก่อนก็แล้วกัน

แนวเส้นทางว่ายน้ำเกาะเสม็ด-ฝั่งบ้านเพ

     ด้วยความที่ต้นทุนด้านว่ายน้ำไม่ได้มาก เพิ่งมาฝึกซ้อมช่วงกายภาพบำบัดสะโพกร้าวตอนกลางปี แล้วก็ยังคงว่ายต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ค่อยๆยืดระยะเพิ่ม จนได้ไกลสุดคือประมาณเกือบ 4 กม.แบบว่ายไปพักไปในสระว่ายน้ำ (โดยไม่สนเรื่องเวลาใดๆ ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าต้องว่ายได้เพซเท่าไหร่ถึงเรียกว่าเร็ว) แล้วก็ดันพักว่ายน้ำไปซ้อมวิ่งฟลูงานกรุงเทพมาราธอน ตามเป้าว่าอยากกลับไปวิ่งฟลูให้ได้เหมือนเดิมก่อน โดยก็หวังลึกๆว่าจะฟื้นตัวได้ทันพอจะมาลงงานว่ายน้ำข้ามเสม็ดต่อ เพราะจัดห่างกันแค่สองสัปดาห์ ไม่เหลือเวลาซ้อมแล้วก็อาศัยบุญจากซ้อมวิ่งเอา เพราะมีแค่ปีละครั้งพลาดแล้วรออีกนาน

     ต้นธันวาคมมาถึงอย่างรวดเร็ว ตัดมาวันบรีฟซึ่งตั้งใจจะมาสมัครหน้างานด้วย ปรากฎว่าถึงเวลานัด 17.00 น. ยังหาจุดจัดงานไม่เจอ เพราะไม่รู้จักทาง แถมบริเวณใกล้เคียงมีงานออกร้านประจำปีคนเยอะรถติดมาก ขับวนไปมากว่าจะถึงปรากฎว่าบรีฟจบไปแล้ว แหงสิก็จะมืดแล้วนิ (-.-) ยังดีว่ามาว่ายน้ำอย่างเดียวดูเอกสารกับแผนที่และถามนักกีฬาท่านอื่นเอาก็พอไหว งานจัดกันแบบง่ายๆกันเองๆตามสไตล์สมาคมไตร เดินไปเตนท์ กรอกใบสมัคร จ่ายเงิน รับหมวก-เสื้อ เรียบร้อย แวะถามข้อสงสัยอีกเล็กน้อยกับผู้จัด-อำนวยการงาน ครูอู๊ด (นายกสมาคมไตรฯไทย) เป็นการคุยกันครั้งแรกก่อนที่จะได้มาเป็นลูกศิษย์ครูในภายหลัง แวะหาอาหารเย็นกิน ยัดเต็มที่กะว่าโหลดแบบวิ่งมาราธอน แล้วกลับไปพักผ่อน

เช้ามารายงานตัว เขียนเบอร์

ลงไตรกีฬาด้วยก็ได้ แต่คราวนี้ขอว่ายให้รอดก่อน

     เช้าวันงานเดินทางมาถึงเกือบ 6.20 น.ก็ต้องรีบแล้ว เพราะ 6.30 น. ต้องนั่งเรือของชาวประมงในพื้นที่ออกไปจุดปล่อยตัวที่เกาะเสม็ดก่อน ซึ่งตรงเวลามาก (นักไตรกับนักวิ่งทางไกลปกติวินัยดี เลยเป็นคนตรงเวลา 55+) เขียนเบอร์และจัดของอย่างรวดเร็วก่อนเดินไปหาเรือขึ้น เลือกลำที่ดูไม่ได้นั่งกันเป็นทีมเพราะมาคนเดียว  ระหว่างนั่งเรือไปเกือบครึ่งชั่วโมงเป็นโอกาสดีที่ได้คุยแลกเปลี่ยนกับนักกีฬาท่านอื่นๆ ซึ่งลำนี้แข็งๆกันทั้งนั้น ไม่มีมือใหม่(แบบเรา) ผ่านไตรระยะแสตนดาร์ทกันมาหมดแล้ว มีพี่ท่านนึงดูแล้วขอใช้คำว่า เก๋ามาก เป็นคนเดียวในลำที่ว่ายแล้วไปปั่นและวิ่งต่อครบไตร มางานนี้หลายครั้งแล้ว ระหว่างนั่งเรือก็ดูคลื่น ดูทิศ ดูลมไปเรื่อย อืม วิวก็ดีแหละ แต่ไกลกว่าดูจากบนฝั่งเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

นึกถึงเพลงนี้กว่าครั้งไหนๆ " เรือเล็กควรออกจากฝั่ง "

     เรือใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีก็มาถึงจุดปล่อยตัวบริเวณชายหาดของบ้านทะเลรีสอร์ท ตามแผนที่คือหาดเหนือสุดของเกาะ น่าจะเป็นจุดที่เหมาะและใกล้ฝั่งที่สุดในการปล่อยตัว เวลาที่เหลือคือรอการปล่อยตัวตรงตามเวลาในกำหนดการ ซึ่งมีเวลาเหลือเฟือมากกว่าหนึ่งชั่วโมง เริ่มมีคนลงน้ำไปวอร์ม ส่วนใหญ่ก็นั่งพักหรือคุยกันบริเวณชายหาด ได้คุยรับความรู้จากพี่ๆน้องๆนักกีฬาท่านอื่นอีกนิดหน่อยพร้อมได้ขอใช้ที่ฉีดแว่นกันฝ้าและวาสลีนทาตัว ช่วยกันแมงกระพรุนได้(ความรู้ใหม่ ต่อไปนี้ต้องพก) นั่งๆเดินๆแกร่วๆไปมารอเวลา (ระยะขนาดนี้แผนปกติคือเก็บแรงไว้ ค่อยไปวอร์มเอาช่วงแรกเลย ไม่วอร์มไปก่อน กะไม่ถูกจริงๆว่าใช้เวลาเท่าไหร่คิดว่าน่าจะมากกว่า 3 ชั่วโมง เลยจะไปเรื่อยๆไม่เร่ง ขอแค่จบ) 8.30น. ประธานและสปอนเซอร์ PTT มาถึง เริ่มเปิดงาน ได้เวลาปล่อยตัวแล้ว

บรรยากาศจุดปล่อยตัวบนเกาะ

เช้านี้สนุกมากครับ มีโอกาสเจอกันอีกนะครับ

      หลังเสียงสัญญานนักกีฬาแนวหน้าวิ่งกรูลงไปในทะเลแล้วออกว่ายอย่างรวดเร็ว เราก็ทยอยเดินตามไปคนท้ายๆ นับคร่าวๆน่าจะมีนักกีฬาประมาณเกือบ 60 คน ภาพนักกีฬาทุกคนว่ายเป็นกลุ่มห่างๆกระจายตัวมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน มีทุ่นลอยให้เห็นเป็นแนวห่างๆน่าประทับใจมาก ให้ความรู้สึกว่ายในทะเลกันจริงๆ (ก็มันของจริง) ไม่มีแนวทุ่นและเชือกแคบๆเบียดๆมาตีกรอบไว้ เป็น Open water ที่ต่างจากที่เคยว่ายมาก่อนมาก

ได้เวลาแล้ว ไปกันก่อนเลยครับ

I really like this moment

     ทางงานแข่งจัดทุ่นลอยสีสด ทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ม. ผูกไว้ทุก 500 ม. ให้เป็นจุดนำสายตาและนำทาง มีเรือของชาวประมงท้องที่จอดระหว่างเส้นทาง ทุก 200-250 ม. Stand by คอยให้บริการน้ำดื่ม นักกีฬาสามารถเกาะเรือพักหรือเหนื่อยจริง ขึ้นเรือไปพักแล้วค่อยลงว่ายต่อก็ยังได้ ถือว่ามีการดูแลความปลอดภัยในระดับน่าพอในและเพียงพอ (งานนี้อนุญาตให้ใส่ทุ่น Safety buoy ได้ตามสะดวกครับ)

อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย นี่ตอนทยอยเก็บแล้ว

     หลังออกตัว เริ่มว่ายช่วงแรกช้าๆเป็นการวอร์มและปรับตัวกับคลื่นลม และความเค็ม พยายามรักษาจังหวะช่วง 30 นาทีแรกให้ช้ากว่าปกตินิดหน่อย พบว่าการว่ายในทะเลที่ห่างฝั่งนี่ว่ายง่ายกว่าที่คิด คลื่นน้อยและเบา ลอยตัวง่าย ถ้ายังออกแรงก็ไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ น้ำค่อนข้างใส มองไปได้ไกล ติดเรื่องการเล็งแนวทุ่นที่ถ้ายกหัวขึ้นดูทิศขณะอยู่ในท้องคลื่นช่วงต่ำจะมองไม่เห็นเพราะยอดคลื่นบัง ต้องยกหัวขึ้นบ่อยหากจะเล็งทางให้แม่น และทิศของคลื่นลมมีผลให้ว่ายทางทิศที่เล็งได้ยากขึ้น กินแรงมากขึ้น

     ใกล้ครบหนึ่งชั่วโมงยังอยู่ในช่วงที่ไปได้เรื่อยๆ พยายามรักษาระดับการออกแรงให้ไม่ให้ถึงขั้นเหนื่อยหอบ ตามปกติจะต้องเริ่มเติมพลังงาน แต่งานนี้ต้องอยู่ในน้ำตลอดเวลาการพกซีเรียลบาร์มากินตามปกติน่าจะไม่เหมาะ เลยเลือกมาเป็นเยลลี่ พกมาตั้งใจกินทุก 40-60 นาที เวลาแกะก็ใช้การลอยคอแล้วถีบตัวกลับหลัง ซึ่งใช้ได้ดีกับการเคลียร์ฝ้าที่ขึ้นในแว่นด้วย และหลังจากนั้นต้องเริ่มเกาะเรือเพื่อดื่มน้ำ ถือเป็นการล้างความเค็มออกจากปากได้บ้าง
     หลังจากว่ายได้ชั่วโมงครึ่ง สังเกตรอบตัวคาดว่าน่าจะมาได้ครึ่งทางแล้ว ประมาณ 10 โมงแดดเริ่มร้อน เริ่มรู้สึกถึงการเกร็งที่เท้าเป็นจังหวะๆ เป็นอาการที่นักกีฬาสาย Endurance รู้จักดีคือ ตะคริวกำลังจะมา อืมมม วิ่งหรือปั่นยังหยุดข้างทางพักได้ ลอยอยู่กลางทะเลนี่ไม่ได้แฮะ ต้องผ่อนแล้วควบคุมการออกแรงให้ดี เริ่มจากเปลี่ยนไปว่ายกบให้บ่อยขึ้น นานขึ้น กลับไปท่าฟรีสไตล์ได้ไม่นานก็ต้องกลับมากบใหม่ ไม่สามารถเร่งได้กว่านี้เพราะเท้าจะเกร็งถี่ขึ้น ช่วงนี้เริ่มมีคนว่ายแซงไปบ้าง แต่ก็ยังยึดเป้าหมายว่าขอจบโดยสวัสดิ์ภาพพอ ขอไม่ทำอะไรเสี่ยงเพิ่ม เน้นประคองตัวไป


     ผ่านสองชั่วโมงเติมพลังงานกับแวะเกาะเรือเพื่อดื่มน้ำอีกซักที เริ่มกลับมาว่ายท่าฟรีสไตล์ได้นานขึ้น และฝั่งก็เริ่มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เห็นคนว่ายถึงฝั่งลิบๆ ทำให้มีกำลังใจไปต่อ มองดูนาฬิกาเช็คระยะทางพบว่าระยะนิ่งไปตั้งแต่ตอน 3 กม. ไม่น่าแปลกใจ การ์มินจับสัญญานหลุดตอนว่าย Open water นี่ธรรมดามาก แค่เสียดายนิดหน่อยเพราะระยะหายกับใช้อ้างอิงไม่ได้ ว่ายต่ออีกซัก 15 นาที ที่ระยะ 300-400 ม.จากฝั่งก็มองเห็นพื้นใต้น้ำ อยู่ในระยะที่อีกเดี๋ยวจะเหยียบเดินไปได้ ด้านหน้าก็มีนักกีฬาคนอื่นเดินเข้าหาดไปเรื่อยๆแล้ว มั่นใจได้ จบแน่ๆ เท้าแตะพื้นก็เปลี่ยนไปใช้การเดินแทน แต่เดินได้ซักพักก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เร็วกว่าว่ายเลย ก็สลับไปว่ายบ้างเดินบ้างจะได้ไม่ร้อนจากแดดส่องหลังเกินไปด้วยในช่วง 10 นาทีสุดท้าย จนมาถึงหาดขึ้นจากน้ำในที่สุด เห็นถังเก็บน้ำล้างตัวตั้งอยู่แวะไปตักราดล้างตัวสบายๆก่อนเดินขึ้นฝั่ง แล้ววิ่งเหยาะไปผ่านซุ้มเส้นชัยแบบยิ้มๆ

ถึงแล้ว ทางขึ้นฝั่ง

ซุ้มเส้นชัย นักกีฬาทุกประเภทเข้าเส้นชัยเดียวกัน สบายๆ

      ผ่านเส้นมาแวะรับเหรียญ รับอาหาร เรียบๆง่ายๆ เดินย้อนไปรับของฝาก(ใส่ถุงมาจากเกาะ) ใช้เวลาดูบรรยากาศการแข่งที่ยังมีแข่งไตรต่ออีกซักพักใหญ่ ก่อนแวะเปลี่ยนชุดแล้วเตรียมตัวกลับ

ของที่ระลึก สีสันบาดตา

      สรุปใช้เวลาไป  2:25 ชม. ในการว่ายน้ำในทะเลซึ่งไกลสุดที่เคยว่ายมา สนุกมาก ชอบบรรยากาศสบายเป็นกันเอง ระยะทางและเส้นทางอยู่ในระดับที่เป็นไปได้ถ้าซ้อมมา ความเหนื่อยน่าจะอยู่ประมาณฮาร์ฟมาราธอนเท่านั้น คนออกกำลังกายประจำแล้วซ้อมมาทำได้แน่ และที่สำคัญเหมือนที่หลายคนพูดไว้คล้ายๆกันว่า ต่อไปนี้เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังได้แล้วว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมเคยว่ายน้ำข้ามเกาะเสม็ดมา  

2 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดครับ ...
    อยากทราบการฝึุกซ้อมครับว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร
    และระหว่างทาง ต้องเกาะ ต้องกิน อย่างไรครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จากที่แอบไปดูโปรไฟล์มานี่ แข็งแรงและออกกำลังเยอะกว่าผม 3-4 เท่าได้เลยครับ ถ้าผมยังกล้าแนะนำโค้ทอีกก็เขินแย่ (^^")

      ขอเล่าข้อสังเกตของตัวเองเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มแล้วกันครับว่า

      - วันจริงง่ายกว่าที่คิดครับ ผมซ้อมในสระมาเต็มที่แค่ 4 กม. (แยกเซต ไม่ได้ว่ายรวดเดียว) แต่ตอนว่ายจบเหนื่อยและเมื่่อยน้อยกว่า
      - แตนทะเลและเศษแมงกระพรุน ต้องเจอแน่นอนในทะเลแถบนั้นครับ แต่ไม่โหดร้ายเหมือนงานแถวหัวหิน-ชะอำนะครับ
      - เรื่องการกิน ผมพกเจลใส่กระเป๋าหลังไป 2 อัน แวะกินเจลและน้ำทุก 2 กม. (ว่ายเกือบ 1 ชม.) แค่นั้น
      - การเกาะเรือ เรือประมงที่จอดรอใกล้ทุ่นจะมีบันไดข้างเรือสำหรับปีนขึ้น ใช้ช่วงศอกหนีบหรือคล้องแขนไว้ก็กินและรับน้ำขวดจากน้องในเรือได้สะดวกแล้วครับ หรือปีนบันไดขึ้นไปพักบนเรือก็ได้ผู้จัดงานอนุญาต
      - ทุ่นวางห่างทุก 500 ม. จะเล็งลำบากบางช่วง ผมใช้การเล็งข้างๆเรือเอาเพราะสูง-ใหญ่-ชัดเจนกว่าครับ
      - น้ำใสช่วงออกจากเกาะจนก่อนถึงแผ่นดินประมาณ 1 กม. จากนั้นจะเริ่มเจอขยะมากขึ้นเรื่อยๆ อ่าวบริเวณนั้นเป็นจุดที่ขยะชอบลอยมากองครับ
      - จำนวนทุ่นและเรือที่คอยซับพอร์ท ถ้าเทียบกับงานไตรที่มีมาตรฐาน เช่น tri-league, roboman จะน้อยกว่าพอสมควรครับ

      ลบ