วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Get Start a Different Life / Review จักรยานเสือหมอบ Merida scultura 900 (2014)

แค่จักรยานคันหนึ่งที่พาผมเข้ามาโลกที่แตกต่าง

           จุดเริ่มต้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราวที่การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมในช่วงปีที่ผ่านมาเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่พาเจ้านี่กลับบ้าน หลังจากพยายามเข้าฟิตเนสที่คอนโดมาได้ซักเกือบเดือนในหน้าฝน แล้วพบว่าการปั่นจักรยานในฟิตเนสก็ไม่เลวเมื่อเที่ยบกับเครื่องอื่นที่มี (ปั่นนิ่งๆได้เหงื่อ เหนื่อยก็ผ่อน ดูวีดีโอหรือเล่นมือถือไปด้วยก็ได้) ประกอบกับกระแสจักรยานมาซักพักใหญ่แล้ว ระหว่างรอหมดหน้าฝนก็หาข้อมูลไปเรื่อย หลักๆก็เลือกง่ายๆว่าจะใช้งานแบบไหน บ่อยแค่ไหน งบประมาณเท่าไหร่ ด้วยความใหม่มากแต่อยากเร็วแล้วก็เบี้ยไม่มาก สรุปได้ว่าคงต้องเป็นเสือหมอบตัวเริ่มต้น

          ในช่วงเวลานั้นทุกสำนักเชียร์หมอบเริ่มต้น TREK 1.1 ต้นเริ่มต้นของยี่ห้อยอดนิยมในไทยด้วยความที่ค่าตัวถูกที่สุดในบรรดาเสือหมอบแบรนด์อินเตอร์ ด้วยราคาไม่ถึง 15,000 บาท ทำให้มันเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากกก ชนิดของลงวันไหนก็หมดวันนั้นแหละ แค่คิวจองแบบยอมจ่ายตังค์ไว้ก่อนก็เกินจำนวนรถแต่ล่ะล๊อตที่มาแล้ว หลังจากลองพยายามหาซักพักก็เกรงว่าเอาเวลาตามหาไปส่องรุ่นอื่นๆดีกว่า (ซึ่งคิดถูกมากเพราะจนวันที่รุ่นปี 2015 ออกแล้วก็เป็นรุ่นที่ยังคงต้องตามหากันทั่วเมือง ไม่มีค้างโล๊ะสต๊อคใดๆทั้งสิ้น)

TREK 1.1 รุ่นดี พิมพ์นิยม ตามหากันให้ควัก ใครมีไว้คุณทุ่มเทมากครับ


          ร้านที่ติดต่อแนะนำว่าลองขยับขึ้นมานิด เป็น TREK 1.2 ที่จะได้ชุดขับเคลื่อนดีกว่า 1 ระดับตามราคาที่เพิ่มอีกพอสมควร หรือเป็น Merida ตัวรหัส 900 ที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจเลยแต่แรก แต่พอไปเช็คสเปคปรากฎว่าดีกว่าที่คิดจนน่าแปลกใน ด้วยราคาที่แพงกว่า 1.1 แค่นิดหน่อย แต่ได้เฟรมทรง(ที่เขาว่ากันว่า)พุ่ง ตะเกียบคาร์บอนทั้งชุด เฟรมแบบซ่อนสายที่รุ่นสูงกว่านี้ก็ยังหาไม่ค่อยได้ง่ายๆ ตามคอนเซปแบรนด์ Merida ที่ให้ของคุ้มค่ากว่าแม้ว่าชื่อแบรนด์ในไทยจะไม่ได้ป๊อบมาก ถูกใจระดับนึงทีนี้ก็หาของ อนิจาจักรยานกระแสบูมจริง ร้านไหนก็ไม่มีไซต์ถามไปรอไปร่วม 3 สัปดาห์ จนของล๊อตใหม่มาก็รีบไปร้านด้วยความรวดเร็ว แวะไปสั่งประกอบและจ่ายเงินก่อนในเสาร์ และเอารถไปรับมาวันอาทิตย์ (คำนวณแล้วหากปั่นกลับจากถนนลาดพร้าวเอง เกรงจะโดนรถเมล์เอาไปรับประทาน และจะเลยไปออกอุปกรณ์อื่น เช่น หมวกกันน๊อค ที่ร้านแถวนนทบุรี) แค่อุปกรณ์เบื้องต้นสุดๆ เช่น หมวก ไมล์ ไฟหน้า-หลัง ขา+กระติก บันได ก็หมดไปอีกพอสมควร ใครจะออกรถจักรยานก็เผื่องบไว้นิด อย่าเพิ่งลงกับรถจนหมดครับ

ประจำการ ตุลาคม 2556

          ตัวรถสรุปสเปคคร่าวๆ เฟรม Scultura race lite alloy สีดำเงาคาดแดงขาว ซ่อนสายในตัว ตะเกียบฟูลคาร์บอน ชุดขับหลักเป็น Shimano Claris (8 speed) ได้แก่ มือเกียร์ ตีนผี สับจาน และดุมล้อหลัง (แค่นั้นแหละ :P) จานหน้าคอมแพค FSA 50-34T เฟือง Sunrace 12-28T เบรค Tekto  ส่วน แฮนคอ สเตม หลักอาน อาน เป็นของเมอริด้าเอง ล้อ Alexrim 450 มาพร้อมยาง Maxxis 700*23c จัดชุดมาพอใช้ได้สำหรับตัวเริ่มตัวไม่ควรบ่นไรมาก หึหึ

เสือหมอบเริ่มต้นยังไม่ซ่อนสายเกียร์ โยงกันดูยุ่งๆ / นับไซต์แบบตัวอักษร S/M นี่ไซต์ 52

          ความเห็นโดยรวม ณ วันนี้ ใช้งานได้กว่า 10 เดือนแล้วระยะเกิน 3,000 km. (เป็นแค่ Weekend cyclist) ไม่มีหมอบอื่นที่ได้ใช้จริงจังคงเทียบกับรุ่นนั้นรุ่นนี้ไม่ได้ ขอบอกตามความรู้สึกไล่ไปทีละเรื่อง

-               องศาเฟรม ท่านั่ง และความสบาย เนื่องจากตำแหน่งผู้ปั่นค่อนข้างก้มแบบ Race (องศาเดียวกับ Specialized ส่วนใหญ่ เนื่องจากมากจากโรงงานเดียวกัน) ตอบสนองดีเวลาเร่งความเร็ว กดมาพอสมควร ไม่ไหลมากอาจเป็นเพราะรถหนักไปหน่อย แต่ทำให้หวังความสบายมากไม่ได้ ใหม่ๆนี่เกินร้อยกิโล ปวดคอมาก แต่ซักพักก็ชินซึ่งน่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนไม่เคยปั่นรถแบบนี้ เบาะติดรถได้ยินคนแซวว่าแข็งเกือบจะเป็นไม้กระดาน แต่ไม่แย่ขนาดนั้นจนกว่าคุณจะได้ปั่นเกินร้อยโล อาจต้องใช้วิธีเซฟๆยกก้นขึ้นเป็นระยะๆ

หลักอานของเมอริด้าเอง แข็งแรงแต่หนักมาก / มือเกียร์ Claris เข็มชี้บอกเกียร์ไม่เป๊ะมาก แต่ใช้ซักพักก็ชิน

-               การควบคุมดีปานกลาง ไม่เคยมีปัญหาใดๆในการขี่ทางราบ ยางที่ให้มาดูแทบไม่มีดอก แต่ปั่นมาทุกสภาพถนนยังไม่มีปัญหาจากยางโดยตรง ชุดขับแม้จะเป็นตัวล่างๆ แต่การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่นใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา จูนบ้างถ้าไปขี่ทางกระเทือนๆมา แต่ก็หลายเดือนที ความแม่นยำระดับพอเอาไปงานแข่งใจเกินร้อยได้ไม่มีปัญหา แต่ลงเขาหนักๆยาวๆเบรกยังไม่ถึงกับเชื่อมั่นได้มากนัก เผื่อระยะนิดนึง

ชุดตีนผี ความแม่นยำดีกว่าที่คิดมาก / ชุดจานคอมแพคใช้งานเหลือๆถ้าไม่ใช่ขาแรง 

-               น้ำหนัก ค่อยข้างหนักมากสำหรับเสือหมอบ เกิน 10 กิโลแน่นอนถึงจะไม่เคยชั่งจริงจัง แต่เทียบกับรถอลูระดับ 30,000บาท+แบบรถเดิมๆ นี่ต่างกันจนรู้สึกได้ หลักๆนอกจากเฟรมก็น่าจะมาจากหลักอาน แนะนำว่าเทียบราคาที่จะอัพเกรดกับน้ำหนักที่ลดลงเลือกเปลี่ยนหลักอานได้ผลคุ้มแน่ๆ ส่วนล้อและดุมคุณภาพตามราคา ขอบต่ำมากจนเกือบไม่มี หวังหล่อนี่ไม่ได้เลย ก็ทำใจบอกตัวเองเอาว่าไม่มีใครเขาใช้ล้อติดรถคอมพรีทไบค์กันอยู่แล้ว ก็จะช่วยให้มีทัศนคติกับรถดีขึ้น

เบรคพอใช้งานได้ในเมือง / ตะเกียบคาร์บอนที่กลายเป็นมาตรฐานเสือหมอบแบรนด์ 

-               ทั่วๆไปเท่าที่นึกออก สับจานตั้งลำบากนิดหน่อย ถ้าใส่เกียร์เยื้องมากจะโซ่จะสีจนมีเสียง แต่ไม่มีปัญหาขึ้นขนาดมีผลกับการปั่น แค่รำคาญและเขินคนที่ปั่นใกล้ๆกันนิดหน่อย ส่วนเฟรมซ่อนสายเหมาะมากถ้าคุณใช้ชีวิตในเมืองที่ต้องแบกรถบ่อยๆอย่างยกขึ้นสะพานลอย แต่ถ้าไม่ใช่ ก็อาจไม่จำเป็นนัก (แต่ก็ช่วยให้รถดูเรียบร้อยดี เพราะสายเกียร์ก็ดูยุ่งพออยู่แล้ว 55)  การดูแลรักษาสะดวกตราบที่ไม่ต้องไปยุ่งกับสายทั้งหมายที่ซ่อนในเฟรม ซึ่งถึงขั้นนั้นก็เกิน service รถพื้นฐานไปแล้ว ดูแลโซ่ หล่อลื่นส่วนต่างๆตามสมควรก็ยังใช้งานได้ดี

          โดยส่วนตัวต้องบอกว่าพอใจกับมันมากกก ใช้งานได้คุ้มค่ากับราคาเป็นที่สุด ด้วยความที่ไม่ได้ถนอมรถมากอยากจอดวางนอนก็นอนได้ พิงไรก็พิงไปไม่ค่อยสน (นิสัยแย่ส่วนตัว) ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะเป็นรอยไหมเพราะเป็นเพิ่มเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่คุณจะได้ความสบายใจสำหรับรถจักรยานที่ซื้อมาใช้งานจริงๆ ไม่ว่าจะปั่นสั้นไม่กี่กิโลยันปั่นยาว Audax 300 BMP คันนี้ไปได้หมด (ไกลกว่านี้คงหารถที่ติดตระแกรงได้และท่านั่งสบายมากขึ้นคงจะดีกว่า เพราะใช้เวลาเกิน 24 ชม.แล้ว) และถึงวันนี้ก็ยังรถเดิมๆทั้งคัน ไม่มีอัพเกรดใดๆ นอกจากติดบันไดคลีท แต่รถตอนซื้อไม่ให้บันไดมาด้วยนะ เพราะงั้นไม่นับน่ะถูกแล้ว เอาเป็นว่าสำหรับรถเริ่มต้นที่คุณภาพไม่หนีกัน เลือกเฟรมสีที่ชอบ องศาและไซต์ที่ใช่ แล้วมีความสุขกับคันที่คุณเลือกได้เลย ส่วนผมจักรยานคันเริ่มต้นคันนี้เป็นจุดเริ่มของ Activity ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผมครับ            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น