วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563

Race note : IRONMAN 70.3 Bangsaen 2020 (Part 2/2)

Race note : IRONMAN 70.3 Bangsaen 2020 (Race day)


Part 2/2 วันแข่งและหลังแข่ง

Prepare

- 4.00 ตื่นก่อนเวลาที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เช็คอุปกรณ์ พร้อมแล้วออกเดินทาง
- 4.35 ยังออกเดินทางไม่ได้ โดนจอดรถขวางล๊อคล้อ พยายามสงบใจ ให้รีเซปชั่นโทรไปตามเจ้าของมาเลื่อนรถ
- 4.50 ออกเดินทางจริงซะที ด้วยการกล่าวขอบคุณเจ้าของรถที่ขวาง ด้วยน้ำเสียงขุ่นแบบที่ไม่น่าเป็นการขอบคุณใคร
- 5.20 เดินทางถึงทรานซิชั่น (T) จุดเปลี่ยนชนิดกีฬา คือแข่งจบชนิด ก็มาเปลี่ยนอุปกรณ์ที่นี่ให้พร้อมไปต่อ 
- ใช้เวลาจัดอุปกรณ์ เติมน้ำ โหลดอาหาร ฯลฯ ตามเวลาปกติคือ 20 นาที เวลายังเหลือ เดินไปคุยเล่นกับตุ๊กตาที่ยืนรออยู่นอก T 

ก้มๆเงยๆจัดของ เตรียมอุปกรณ์ 20 นาทีเป็นปกติ
- 5.55 ใกล้เวลาปิด T เดินออก ไปยืนรอใกล้จุดปล่อยตัว
- 6.00 เจอน้องเจ้าหน้าที่พูดประโยคยาวๆรัวๆเร็วๆเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า ห้ามใส่รัดน่องแข่ง ผิดกติกา
IM ให้ถอดออก
- หืม อันนี้ผิดเองไม่ศึกษากฎให้ดี ถอดได้ครับ แต่จะไปเก็บทันไหม
 
T ถึงเวลาปิดไปแล้ว หรือต้องถอดโยนทิ้ง เสียดาย 555
- วิ่งกลับไปเข้า T เจ้าหน้าที่ต้อนคนออกแล้ว สปริ้นไปมึนๆ ถึงจุดจอดรีบถอดแล้ววิ่งกลับออก ยังดีที่ทัน (เลทนิดนึงแบบไทยๆ)
-
 
Trasition ยาว 800 ม. นะ วิ่งไปกลับจุดจอดของเราอยู่กลางๆค่อนท้าย คือวิ่งไปแล้ว 1 K
- เหนื่อยเหงื่อซึมทั้งที่ลมแรง เหมือนได้วอร์มแล้ว เลยไม่ลงน้ำว่ายวอร์มเหมือนทุกที เดี๋ยวหมดแรง

Transition อันยาวไกล ไปกลับทีเป็นกิโล

At start line

- ใกล้เวลาปล่อยตัว นักกีฬาทุกคนมายืนเป็นกลุ่มใหญ่รวมกันริมหาด แบ่งกลุ่มตามสีหมวกความเร็วว่ายน้ำ บ้างขยับยืดเหยียดร่างกาย บ้างตั้งสมาธิ บ้างคุยกันเสียงเบาๆ

- บรรยากาศรอบตัวอธิบายได้ยาก ภาพมันเหมือนกับที่เห็นใน Youtube มาตลอด 3-4 ปี ตั้งแต่เริ่มเล่นกีฬานี้มา งานแข่งกีฬาที่มีโลโก้ M สีแดงเด่นๆ มีฝรั่งกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ริมหาด สายตามุ่งมั่น มองออกไปในทะเล เหมือนมองหาอะไรซักอย่าง 

-  แต่คราวนี้ เราพาตัวเองมายืนอยู่ในนั้น



- ไม่มีเสียงเพลงปลุกใจฮึกเหิมแบบในวีดีโอ มีแต่เสียงกรรมการประกาศรอเวลาปล่อยตัว เสียงคนคุยกันฮึมฮัม เสียงคลื่นและลมริมหาด มันไม่ได้เงียบ แต่มันสงบ

- ลงงานไตรมาก็หลายครั้ง คราวนี้มีคนลงแข่งเยอะที่สุด เกือบสองพันคน แต่ครั้งนี้มันมีความรู้สึกต่างออกไปจากงานไตร หรืองานวิ่งไหนๆ

- ปกติผมจะเห็นบรรยากาศสบายๆกว่านี้ที่จุดปล่อยตัว เราไม่ใช่นักกีฬาระดับอีลีท ไม่ได้จะแข่งฟาดฟันกับใครเพื่อชิงอันดับ ก่อนถึงเวลาปล่อยตัวก็ทำสมาธิกันนิดหน่อย รวมกลุ่มกันถ่ายรูป ทยอยกันลงน้ำคุยสนุกกันมั่ง หัวเราะมั่งนี่ปกติ

- ตอนนี้คนที่ยืนอยู่รอบตัวผม คือคนที่ใส่หมวกว่ายน้ำสีเดียวกัน(สีฟ้า) ความเร็วในการว่ายพอๆกัน ซึ่งเป็นความเร็วในการว่ายปกติธรรมดา (นึกถึงวิ่งเพซ 6-7) เราก็น่าจะซ้อมมาระดับใกล้เคียงกัน แล้วก็ยังมาทำเหมือนๆ กันในตอนนี้ นิ่ง มองไปยังทะเลตรงหน้า 



- เป็นการยืนหายใจรดต้นคอ ชิดกับคนเกือบสองพันคน ที่ต้องถามตัวเองว่า ทำไมรอบตัวมันสงบจัง?

- คงเพราะกลุ่มคนรอบตัวผมนี้ ไม่มีใครมาแข่งหวังอันดับดีๆแน่นอน ทุกคนก็มาเพื่อจุดมุ่งหมายซักอย่าง

- ที่แน่ๆนี่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเอาชนะใคร

- ระยะมันไกล จนแค่จะจบได้ก็ต้องแข่งกับตัวเองให้ชนะแล้ว

- เพราะงั้นเราก็ควรตั้งสมาธิเตรียมพร้อม หยุดคิดมาก

- กรรมการเรียกรวมกลุ่มโปร ชาวต่างชาติหลายคนเดินไปรอที่จุดสตาร์ท
- 6.25 ตามเวลา สิ้นเสียงแตรลม กลุ่มโปรก็วิ่งลงทะเล แล้วพุ่งตัวว่ายออกไป

เห็นวีดีโอแบบนี้มาเป็นร้อยครั้ง คราวนี้เห็นด้วยตาตัวเอง กำลังจะลงแข่งด้วยกำลังของตัวเอง

- ทุกคนมองตาม ตบมือให้กำลังใจโปร ตบมือให้กำลังใจตัวเอง ตบมือให้กำลังใจกันและกัน

- แถวนักกีฬากำลังค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้า กำลังจะถึงตาของกลุ่มเราแล้ว



Swim

- โปรเริ่มออกตัวผ่านไปร่วม 10 นาที ในที่สุดกลุ่มผมเดินตามกันไปถึงซุ้ม Start กำลังจะเริ่มปล่อยตัวลงน้ำ

- Rolling start ปล่อยตัวชุดละ 4 คน ห่างกันทุก 4 วินาที เพื่อให้พอมีระยะห่างกับคนข้างหน้า

Rolling start

- ถึงเวลาออกตัว สูดหายใจเฮือกใหญ่ ตั้งสมาธิ พุ่งออกตัว กดนาฬิกา วิ่งเหยาะผ่านหาดทราย เท้าสัมผัสน้ำซักที
- My race started


พี่เสื้อม่วงเป็นงาน โผพุ่งรู้มุม

- ลงน้ำได้ครึ่งตัว กำลังจะโผ อ่าว ลืมใส่แว่น ขยับแว่นเข้าที่ พุ่งตัวลงน้ำ เริ่มดึงแขนครั้งแรก
- น้ำช่วงตื้นริมหาดเย็นกว่าที่คิด คลื่นยังเรียบ น้ำใสมองเห็นคนข้างหน้าชัด
- 200 เมตรแรก ให้ตัวเองวอร์ม ไม่เร่ง ดึงแขนเต็มรอบ พยายามปล่อยตัวไหล ไม่ออกแรงมาก
- ว่ายสบายกว่าออกตัวปกติมาก ไม่เบียด คุมจังหวะดี
- ที่ 500 ม. รู้สึกว่าคลื่นแรงขึ้นมาก เริ่มโล้ ดีที่เมื่อวานได้มาลอง สโตรกแขนเร็วขึ้น ไหลน้อยลง
- ที่ 700 ม. จุดเลี้ยวแรก ทันทีที่เลี้ยว คลื่นเปลี่ยนทิศมาตีข้าง พัดเข้าฝั่ง จากซ้ายไปขวา
- เริ่มเงยหายใจข้างซ้ายไม่ได้ น้ำเข้าปาก เน้นหายใจข้างขวา ตัวโล้แรงขึ้น



- ที่ 1000 ม. ไล่ทันหมวกกลุ่มทองของ VVIP ว่ายจ้วงแขนโดนขาไปที แต่ไม่รู้ใคร แว่นเริ่มมัวมาก มองไม่ชัด
- แซงกลุ่ม VVIP ที่เต็มไปด้วยเรือล้อมหน้าหลังมาได้ แวะลอยคอล้างแว่นเคลียร์ฝ้า มองชัดแล้วไปต่อ
- ที่ 1200 ม. จุดเลี้ยวที่สอง เลี้ยงขวาอีกที่ว่ายกลับฝั่ง มองไม่เห็นจุดให้เล็ง แต่ว่ายตามคนหน้าได้เรื่อยๆ
- เริ่มแซงหมวกเขียวที่ออกตัวก่อนมาได้เรื่อยๆ คุมความเร็วไว้ พยายามออกแรงมากกว่าครึ่งแรก
- คนเบียดกันมากขึ้น เริ่มเจอตีนกบถีบ โดนมือตีสีข้าง แปลก ปกติจะเบียดกันช่วงออกตัวมากกว่าครึ่งหลัง
- ที่ 1500 ม. คนเบียดกันมากขึ้นอีก เหมือนกันเป็นกลุ่มหลังของชุดหน้า พยายามทำความเร็วขึ้น คนว่ายเกาะกัน
- โดนฟาดและกระแทกกว่าเดิม เนี่ยว่ายเอาชีวิตรอดชัดๆ
- ที่ 1800 ม. ใกล้ถึงหาด ปรากฏมันมีซุ้มเป่าลมกลางน้ำแคบ ทุกคนเล็งจุดนี้ เลยต้องเบียดกันผ่าน ถึงว่า
- แถมช่วงสุดท้ายส่วนใหญ่เร่งความเร็วขึ้น เพราะแรงยังเหลือ และเตรียมวิ่งขึ้นจากน้ำ
- หาดบางแสนเปลี่ยนระดับเร็ว ถึง เท้าแตะพื้นทรายได้ มีจังหวะโผขึ้นแค่ 2 ที พ้นน้ำแล้ว




- ใช้เวลา 45 นาที ผ่านกีฬาชนิดแรกได้แบบตามแผนสบายๆ เวลาโอเค ท่องไว้ Long game ไม่ต้องเร่ง


Transition 1 (T1)

- จ๊อกเบาๆ ขึ้นจากหาด ผ่านซุ้มปล่อยละอองน้ำล้างตัว หัวใจดียังอยู่โซน 3 ต้น

- ถึงจุดจอดจักรยาน เปลี่ยนจากเสื้อว่ายน้ำไม่มีแขน เป็นเสื้อจักรยานแขนสั้น กันไหล่ไหม้ เพราะต้องปั่นและวิ่งผ่านช่วงแดดจัด
- แต่งตัวใช้เวลาสบายๆ ใส่ปลอกแขน ใส่ถุงเท้า แว่นกันแดด คว้าgopro หยิบขนมปังขึ้นมาเคี้ยว ใช้เวลาเต็มที่ ไม่รีบเหมือนแข่งระยะสั้น

- อยากสบายกว่านี้ แต่ภรรยาตะโกนบอกว่าไปได้แล้ว เดี๋ยว VVIP มาจะติดคิว ไม่ได้ออก

- คาบขนมปังกัด แล้วเข็นจักรยานที่ล๊อกรองเท้าปั่นติดไว้แล้วค่อยๆออกวิ่งเบาๆไปทางออก

- ใช้เวลา 5.30 นาที น้อยกว่าที่คิด แต่มากกว่าทุกครั้งที่เคยแข่งไตรมา (ก็ไม่เคยเปลี่ยนเสื้อนิ)

เปลี่ยนชุด กินขนมปัง พร้อมออกเดินทาง


Bike

- ถึงจุดออกตัวค่อมจักรยาน แล้วปั่นออก ใส่รองเท้าบนจักรยาน

- เนื่องจากรองเท้าใหม่มากกก ยังไม่เคยใส่แข่ง ไม่คุ้น ใส่ไม่คล่อง เลยเสียเวลาช่วงแรกเล็กน้อย #อย่าใส่ของใหม่วันแข่ง


ผ่านมาหนึ่งกิโล ยังใส่รองเท้าไม่เข้าเลย จับเบสบาร์ส่วนคนอื่นก้มลงแอรโร่บาร์แล้ว


- ที่ 1k ใส่รองเท้าได้เสร็จก่อนออกถนนใหญ่พอดี วันนี้ลมแรงตั้งแต่ออกตัวอย่างที่คิด ยังจับเบสบาร์ ปั่นวอร์ม เข้าถนนข้าวหลาม

- ที่ 2k ขึ้นสะพานข้ามแยกแรก ต้องกดเต็มที่แต่แรก เพราะนอกจากชันยังสวนลมเต็มๆ โดนบังคับให้ออกแรงหนักเร็วมาก

- ที่ 4k ขึ้นสะพานข้ามแยกที่สอง เริ่มไม่ดี ความเร็วเฉลี่ยตั้งแต่ออกตัวมาต่ำมาก 22km/h จากที่รู้สึกสบายๆตอนขึ้นจากน้ำ ต้องเริ่มถามตัวเองครั้งแรกว่า นี่ต้องปั่นหนี cut-off ใช่ไหม

- ตามแผนคือ จะปั่นเฉลี่ย 28km/h ตลอดระยะทาง 90k เพราะเป็นช่วงคุมหัวใจได้ดี ประสิทธิภาพ/การใช้กล้ามเนื้อไม่ล้ามากแม้จะปั่นทางไกล แต่ตอนนี้ไม่น่าจะเร่งได้ใกล้เคียงด้วยซ้ำ

- ที่ 8k ขึ้นสะพานข้ามมอเตอร์เวย์ไปทางเขาเขียว ความเร็วยังแค่ 25k/h แต่เริ่มล้าแฮมสตริง ทั้งที่เพิ่งได้แค่หนึ่งในสิบของระยะทาง อาจออกแรงดึงบันไดมากไป หรืออาจตั้งแผ่นครีทรองเท้าใหม่ไม่ดี #อย่าใส่ของใหม่วันแข่ง

- ที่ 12k หลังข้ามมาช่วงหุบเขาเขียว เริ่มลมสงบบางช่วง ทำความเร็วขึ้นได้บ้าง

- แต่ช่วงลมพัดผ่านร่องเขา ก็แรงจนแทบคุมจักรยานไม่ได้ รถเป๋ ต้องค่อยๆประคองไป กลัวล้มแข่งไม่จบ

- มารู้ตอนหลังว่าล้มหลายคัน โดนเฉพาะรถใส่ล้อดิสและล้อขอบสูงมากๆ ปลิวตามลม


ลมแรงพัดฝุ่นทราย มาปะทะตัว แถมยังปัดจักรยานจนเป๋


- ประคองรถ สลับก้มจับแอร์โรบาร์เท่าที่ทำได้ ค่อยๆทำเวลาคืนมา

- สลับกันแซงขึ้นลงกับพี่ชุดสวนกุหลาบ (ชุดลายดอกกุหลาบกลีบชมพูฟ้าบนตูดพี่บอกสถาบันมาก) ทางราบเค้าแซง ทางเนินเราตัวเบากว่าก็แซงเค้าคืน ดูแล้วน่าจะแรงใกล้เคียงกัน ก็พยายามเกาะไปห่างๆเพื่อ pacing

- ที่ 20k feed point แรก รับแต่ขวดน้ำเปล่า หยิบขนมปังในกระเป๋าหลังมากิน ช่วงครึ่งแรก พยายามกินอาหารแข็งก่อน ยังย่อยไหว

- ลงจากอ่างเก็บน้ำบางพระขาไป กลับเข้าโหมดการแข่งของจริง หลายๆคันเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ไล่ทำเวลากันคืน รวมถึงลมน้อยลงมาก

- ที่ 40k feed point 2 ไม่รับน้ำเพิ่ม เพราะจะถ่วงรถตอนปีนเนิน หยิบข้าวต้มมัดซองขึ้นมากิน

- จุดกลับตัวครึ่งทาง ปั่นย้อนทางเดิม เช็คสภาพตัวเอง ยังดี แรงกลางๆ ล้ากลางๆ น่าจะไปต่อได้ด้วยการออกแรงระดับเดิมไม่มีปัญหา

- ที่ 50k ปั่นขึ้นเนินไปเส้นเลียบอ่างบางพระ วิวสวยจนต้องชะลอหยิบกล้องออกมาถ่ายเก็บไว้ เสียดายช่วงนี้ตากล้องแอบเยอะ รูปเราเลยท่าไม่สวย ^^”

ไฮไลต์เส้นทางปั่น ริมอ่างเก็บน้ำบางพระ
จุดชันสุดคือขึ้นสันอ่าง ยังไม่ถึงกับต้องยืนกด

- ที่ 60k feed point 3 รับเจลถุงมาดูดเย็นชื่นใจ น้องๆที่มาช่วยแจกตั้งใจมาก ส่งอาหารให้คนปั่นจักรยานรับไม่ง่ายเลย หล่นก็เยอะ รู้สึกว่าได้ช่วยเหลือค่าขนมน้องๆทำงานพิเศษ  (อ้าง)

- ขากลับลมยังมาแรงเป็นช่วงๆ ต้องระวังเหมือนเดิม แต่พอปรับตัวได้บ้างแล้ว ความเร็วเฉลี่ยดีกว่าครึ่งแรก

- ที่ 80k ลมส่งกลับช่วงสุดท้าย หลายๆคนกดกันเต็มที่เพราะเป็นท้ายการปั่น แม้แต่เราเองก็ปั่นหนักกว่าที่ตั้งใจไว้ เพราะมันสนุกมาก กดกันแบบ 40km/h.++

ขากลับบนถนนข้าวหลาม เร่งสนุกมาก

- ที่ 89k เริ่มผ่อนขา ต้องเข้าหลายโค้ง ถอดรองเท้ารอ แต่ไม่กระโดดลงรถเหมือนทุกที เพราะไม่รีบ แค่ไม่ต้องห่วงถือรองเท้า หรือวิ่งด้วยรองเท้าปั่น จอดแล้วก้าวลง จ๊อกเข็นรถเข้าจุดเปลี่ยน

- จบจักรยาน 90K  เวลา 3:01 h. เฉลี่ย 29.5km/h. ดีกว่าที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย โดยออกแรงมากกว่าที่คิดในช่วงท้าย แต่สภาพร่างกายยังถือว่าใช้ได้



Transition 2 (T2)

- ปลดสายหมวกกันน๊อครอระหว่างจ๊อกไปจุดจอดจักรยาน

- จอดรถ ถอดหมวกปั่น ใส่หมวกแก๊บ วันนี้แดดแรงเลยไม่ใส่ visor เหมือนปกติ ใส่รองเท้าวิ่ง คาดเบอร์

- จ๊อกไปจุดออกตัววิ่ง  T2 กินเวลาน้อยกว่า T1 เพราะขั้นตอนน้อย

- ใช้เวลาไป 3 นาทีเศษ เป็นการจ๊อกผ่านระยะ T ไปแล้ว 2 นาทีกว่า


Run

- ออกตัวใกล้ 11โมง แดดแรงได้ที่ ระยะ 21k แบ่งเป็นรอบเขาสามมุกยาว 7K X 3รอบ วนจุดกลับตัวหน้าเส้นชัย รับสายคล้องข้อมือ แล้ววนจนครบทั้ง 3 รอบ

- ในแต่ละรอบแบ่งเส้นทางเป็น 2k แรก ทางราบจากเส้นเรียบหาดไปจนจุดให้น้ำตีนเนินแรก 3kช่วงกลางทางโรลลิ่ง ขึ้นสลับลงเนินเขาสามมุข มีเนินชัน 2 ลูกช่วงติดทะเล (ใครเคยมาวิ่ง series Bangsaen 42/21 น่าจะคุ้น) ปิดด้วย 2kท้ายราบเรียบหาดขากลับ


ช่วงเลียบชายหาด เรียบ วิ่งสบาย

ช่วงขึ้นเนินถึงสั้นแต่ชัน บางคนเลือกเดินเก็บแรง เซฟกล้ามเนื้อ

- รอบ 1 ออกตัวค่อนข้างเร็วกว่าที่คิดไว้ เพซ5ปลายไปจนถึงตีนเนินแรก รับน้ำวิ่งขึ้นลงเนินได้ยาวๆ ยังล้าน้อยสภาพดี ไม่มีปัญหา

- รอบ 2 อากาศร้อนขึ้นใกล้เที่ยง เพซลดเหลือประมาณ 6 เจอเนินต้องลดความเร็วซอยเท้าจ๊อกขึ้นเบาๆ ต้นขาด้านหน้ารู้สึกตึง ผ่านจุดให้น้ำ ต้องสลับเดินกินน้ำ จนใกล้พ้น station เจอโปรหญิงฮ่องกง ชุดโปรมากๆ น่าจะวิ่งรอบท้าย ปรบมือให้กำลังใจช่วงที่เค้าแซงไป เราก็ประคองของเราได้จนกลับตัวอีกครั้ง

น้องโปรหญิงฮ่องกง เท่สุดๆ แน่นอนว่าโพเดี้ยม

- รอบ 3 เที่ยงกว่า แดดดูดแรงไปไปมาก ทางราบยังวิ่งได้แม้จะลดเวลามาอีกหน่อยที่เพซ 6 กลางๆ แต่ต้นขาปวดตอนขึ้นทางชันต้องแวะฉีดสเปรย์ เปลี่ยนเป็นเดินเร็วขึ้นเนินเพื่อไม่ให้ตะคริวมา แวะรับของกินตาม station นานขึ้น กินเยอะขึ้น ไม่รับน้ำเกลือแร่ แต่กินเจลรัวๆ เนื่องจากทีมงานจัดมาไว้เยอะมาก 3-4 ยี่ห้อ หลากรส ถือโอกาสลองกินตัวใหม่ๆหลายตัว แถมพกกลับบ้านมาหลายซองด้วย 55 ไอติมก็กินตลอดถ้าจุดนั้นมีบริการ

ในมือมีซองเจล และในกระเป๋าคาดเอวก็ตุงไปด้วยซองเจล -o-

- แรงลดลงแต่ยังไปได้เรื่อยๆ ทรมาณน้อยกว่าที่คิด พอสบายใจว่าจบแน่ เริ่มสนุกกับบรรยากาศรอบตัวมากขึ้น เล่นกับคนเชียร์ตามทาง

- กิโลสุดท้าย ขยับชุดให้เข้าที่ รูดซิปเสื้อขึ้นปิดคอ วิ่งไปยิ้มไป เริ่มมองไปรอบๆ คำนวณแรงนักกีฬาใกล้ๆ กะว่าขอไม่ชิดคนหน้า-หลังมากไป จะได้มีระยะห่าง เผื่อได้รูปสวยๆมั่ง


แต่งตัวเรียบร้อย ทำหน้ายิ้มๆ (แต่ลืมเช็ค BIB)

- ก่อนเข้าเส้น 400m. ผู้จัดงานมีธงชาติเตรียมไว้ให้ใช้ถือชูเข้าเส้นสวยๆ แต่ด้วยความเขิน และเสื้อที่เลือกใส่ก็มีลายธงชาติแล้ว ขอไม่รับแล้วเตรียมวิ่งเข้าเส้น (งานหน้าถ้ามีจะขอถือธงชาติเข้าเส้น)

- ภรรยามารอใกล้เส้น หันไปโบกมือให้ตามเสียงเรียก ขอบคุณที่มารอถ่ายรูปให้นะ

- เงยหน้ามองเส้น ปลื้มๆ ขอบคุณการซ้อมที่ผ่านมา 4 เดือนของตัวเอง ถ้าซ้อมถึงวันแข่งมันจะสนุกมาก เห็นรูปที่ออกมายิ้มทุกรูปเลย

- ผ่านเข้าเส้นไป ลืมนึกถึงท่าที่ตั้งใจจะโพส แต่ไอ้การชูแขนตลกๆนี่มันก็เป็นธรรมชาติของตัวเองดีเหมือนกัน


เฮ่ จบแล้ว

- ตบมือแรงๆไป 1 ที เรียกกำลังใจ มันต้องทำได้สิ บอกตัวเองตลอดช่วงที่ซ้อมยาวเหมือนจะไม่สิ้นนสุดซักทีจนล้าจนกรอบ แล้วตอนนี้มันก็สำเร็จได้จริงๆ

- ใช้เวลาวิ่ง 2:06 h. ดีกว่าที่ตั้งใจ แม้มีเดินบ้างแต่รู้สึกว่าวิ่งได้ตามมาตรฐานตัวเอง



Race done

- ใช้เวลารวม 6:04:45 h. เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย เหนื่อยกำลังดี แต่สนุกเกินคาดไปมาก

- ขอนับเป็นงานระยะอัลตร้าแรกของตัวเอง

- รับเหรียญสุดหนัก ทรงประหลาดแต่ไม่เหมือนใคร รับเสื้อพินนิชเชอร์ ลายถูกใจที่เห็นแล้วนึกถึงทหารเรือ แล้วเดินไปหาภรรยา

- รับอาหารมารองท้อง ยืดเหยียดนิดหน่อย พักอยู่ซักแป๊บ ก็เตรียมตัวเก็บอุปกรณ์กลับ นี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้ว นานกว่าทุกครั้ง

- ก่อนกลับหันไปมองจุดจัดงาน นักกีฬายังคงทยอยเข้าเส้นชัยมา ยังมีเวลาก่อนคัตออฟอีกมาก คนยังคึกคัก

- IM 70.3 เป็นระยะที่ดีมาก มันกำลังพอดีในหลายๆด้าน ระยะเวลาที่ใช้แข่ง การจัดเวลาซ้อมสำหรับคนทำงานประจำ การเอนเตอร์เทนนักกีฬา ถ้าวันที่วิ่งฟลูมาราธอน เป็นอะไรที่ธรรมดาขึ้นสำหรับเรา ควรท้าตัวเองให้มาลองซักครั้ง

- แม้ว่าคงไม่ใช่งานที่จะกลับมาลงทุกปีจากปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ผมว่ามันจะยังสร้างเป้าหมายและแรงบันดาลใจอื่นๆให้ผมได้อีกนาน

- ขอบคุณคนจัดงานที่จัดออกมาได้ดีตามคาดหวัง ขอบคุณนักไตรกีฬาไทยที่ขับเคลื่อนวงการให้มันใหญ่พอที่จะงานระดับนี้ในประเทศได้

- ขอบคุณหลายปัจจัยรอบตัวที่ทำให้นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะมาท้าทายตัวเองแบบนี้ และขอบคุณตัวเองที่ทำเต็มที่เท่าที่ทำได้เพื่อให้ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอะไรแบบนี้ซักครั้งในชีวิต




วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563

Race note : IRONMAN 70.3 Bangsaen 2020 (Part 1/2)

Race note : IRONMAN 70.3 Bangsaen 2020

Part 1/2 การซ้อมและก่อนวันแข่ง


Practice

- งานเปิดรับสมัครล่วงหน้า 6 เดือน ควรจะสมัครให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ราคาถูกสุดเท่าที่จะทำได้ XผิดX เพื่อจะได้วางแผนการซ้อมอย่างเป็นระบบ

- ลง Half Distance ครั้งแรกยังไม่รู้แนวทาง หาตารางซ้อมในเนตเจออันที่ Poor-time กับ Rich-time 
- แน่นอนว่าเลือกอัน Poor

- Poor คือขั้นต่ำ 8-12 ชม./สัปดาห์ พอเป็นไปได้
- ว่ายน้ำ 2 ครั้ง / วิ่ง 2 ครั้ง / ปั่นยาว 1 ครั้ง บริค(ปั่นแล้ววิ่งต่อ) 1ครั้ง รวม 6 period/สัปดาห์ พัก 1 วัน
- ในตารางต้องให้ไปหาช่วงเวท กับยืดเหยียดเอาเองต่างหาก -..- จ๊ะ

Poor time for poor guy


- เวลาเข้าตาราง 12 สัปดาห์ แต่เราใช้ 16 สัปดาห์ เพราะแทรกวิ่ง 2 ฟลูมาราธอน เผื่อเวลาเทเปอร์+พักฟื้นเพิ่ม
  
- ซ้อมว่ายน้ำช่วงเบา 1.4 K - หนัก 3K
- ซ้อมว่ายน้ำ ว่ายเก็บระยะตามตารางได้เป๊ะ ยกเว้นช่วงอากาศหนาว เป็นครั้งเดียวที่ DNF การซ้อม เพราะหนาวจนตัวสั่นอยู่เกือบครึ่งชัวโมง นึกว่าจะป่วยแล้ว 
- ซ้อมว่ายน้ำในสระล้วนๆ ไม่มีโอกาสไปซ้อม Open water swim แม้แต่ครั้งเดียว บ้ามาก #อย่าเป็นแบบเรา

สระคอนโดยาว 20 ม. วนไป 50 เที่ยวเป็น 1K

- ซ้อมปั่นช่วงเบา 1 ชม. – หนัก 3.30 ชม.
- ซ้อมปั่น เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความพยายามที่สุด เพราะนานมาก น่าเบื่อง่าย ปั่นถึง 100K ไปครั้งเดียว (เกือบ 4ชม. มีเพื่อนปั่น)
- ซ้อมปั่นไม่เน้นความเร็วเลย เก็บชั่วโมงอย่างเดียว น่าจะเป็นกีฬาที่พัฒนาลงด้าน Performance 55+
  
นั่งเอนปั่นในฟิตเนส ใช้กล้ามเนื้อคนละส่วน แต่ก็ซ้อมเอนดูแรนซ์ได้ เล่นมือถือก็ได้ 

- ซ้อมวิ่ง ช่วงเบา 8K – หนัก 21K
- ซ้อมวิ่ง วิ่งเกินเป้าไปมากเพราะดันไปลงฟลูมาราธอนไว้สองงาน วันวิ่งยาวจึงต้องมี 30K+ หลายครั้ง เพื่อให้รอด
- ซ้อมวิ่งทำให้สะสมความล้าไว้มาก เพราะเกินระยะเยอะ แต่กีฬาอีกสองชนิดก็ต้องเก็บให้ได้ตามเป้า ลดการซ้อมไม่ได้

ซ้อมยาวในฟลูเอา สนุกกว่าวิ่งวนในสวน เจอเพื่อนๆด้วย 
  

- สรุป เก็บการซ้อมทั้งสามกีฬาได้ตามเป้า เคลียร์ได้หมดตามตาราง(Poor) แม้จะต้องมาปรับให้เข้ากับฟลูมาราธอน ดีที่เผื่อเริ่มเข้าตารางก่อนเวลาไว้ร่วมเดือน เรื่องสถานที่ต้องเน้นซ้อมว่ายในสระคอนโดและปั่นวิ่ง Indoor เพราะจังหวะเวลาไม่เหมาะและฝุ่น PM2.5 เยอะมาก สภาพร่างกายกำลังตึงๆ ก้าวไปแตะไปในจุดที่เกือบจะบาดเจ็บและฟื้นตัวไม่ทัน แต่รอดมาได้และคิดว่ารู้จักร่างกายตัวเองดีขึ้น


Pre race day

- ทุกงานแข่ง
International มีแววเลื่อน/ยกเลิกจากไวรัส แต่งานนี้ไม่ แค่ยกเลิกการเข้าร่วมของคนจีนทั้งหมดแทน
- กระเป๋าเป้ใส่ของขนาด 30 ลิตร จุอุปกรณ์ไม่พอ เพราะต้องเตรียมของเยอะมาก ถึงขั้นจะเปลี่ยนชุดระหว่างแข่ง 55+

อุปกรณ์จำเป็นวันแข่งไตร ของจริงเยอะกว่านี้

- มีให้ทดลองลงทะเลซ้อมช่วงเช้าก่อนวันแข่ง คิดว่าจำเป็นต้องไป เพราะไม่ได้ว่ายในทะเลมาเป็นปี (มากลัวไรตอนนี้) 
- 6.00 ยอมออกจากกรุงเทพแต่เช้ามืดเพื่อไปให้ทัน เจออุบัติเหตุรถติดระหว่างทาง ดีที่ยังทันเวลา
- 9.10 ลงว่ายที่บางแสน ดีที่ได้มาลองก่อน ทะเลริมหาดน้ำใส ลมสงบไม่มีคลื่น น้ำเรียบเป็นน้ำคลอง
- พอว่ายออกไปได้ 400 เมตร คลื่นแรงจนตัวโล้ เลยต้องรีบว่ายกลับ เดี๋ยวหมดแรง รวมไปกลับว่ายไปไม่ถึง 900 ม. พอใจแล้ว

ว่าย Openwater ติดทุนไปด้วยเพื่อความสบายใจ
- ระลึกได้ว่าหลังว่ายน้ำทะเล จะกินอาหารไม่อร่อยเลยไปทั้งวัน และจะไม่อยากพวกมันฝรั่งทอดเด็ดขาด เค็มแสบลิ้น
- 10.00 แวะถ่ายรูปและสักการะเจ้าที่โลโก้ IM สีแดงสดที่อยากสัมผัสด้วยตัวเองมานาน ในที่สุดก็มาถึงจุดนี้ซักที

ฝากเนื้อฝากตัว
- ขอให้ผมแข่งอย่างปลอดภัยและสนุกด้วยนะครับ
- เจ้าที่เหมือนจะตอบรับ ลมพัดมาอย่างแรงมากๆ ป้ายคัตเอาท์และแสตนด์ที่ตั้งอยู่บริเวณนั้นปลิวและพังล้ม
- ชิบ พรุ่งนี้เวลานี้น่าจะอยู่บนจักรยาน เจอลมแบบนี้เข้า มีปัญหากันแน่ๆ

ป้ายบนเวทีที่มีชื่อนักกีฬาทุกคนที่รวมงานแข่ง โดนลมพัดพังหลังจากนี้อีกซักครู่

- 11.00 เดินเข้างานไปลงทะเบียนรับอุปกรณ์ การจัดการดี รวมต่อแถว รอไม่ถึง 10 นาที จบ
- แต่ไปเสียเวลาใน
Expo ต่อคิวจ่ายเงินซื้อของที่ระลึก 1 ชม.ถ้วน นักไตรคนอื่นช่างแข็งแกร่ง อดทน และมีเงิน -..-

แถวรอซื้อของ นอกจากยาวยังหยิบกันคนละเป็น 10 ชิ้น

- ของที่ระลึกมันก็สวยจริงแหละ แถมน่าเก็บ เพราะระยะนี้คงไม่ได้มาแข่งอีกง่ายๆแน่ อย่างเรายังยอมซื้อ

ลายญี่ปุ่นสวยมาก แต่ซื้อได้ตัวเดีัยวเลยเลือกของไทยก่อน

- ช่วงบ่ายหาข้าวกลางวันกิน เช็คอินที่พัก หลบร้อน
- มีข้อความจากผู้จัดแจ้งว่าเลื่อนเวลา bike check-in เป็น 16.00 เพราะลมแรงมาก จักรยานเสี่ยงล้มเสียหาย
- 16.45 ทุกคนเลยมาเช็คอินจักรยานตอนนั้น ปรากฏติดยาวที่จุดคิวรับชิปไทม์ขาออก ยืนรอคิวอีก 1 ชั่วโมง

ต่อคิวอย่างกับรับของฟรี

- นักไตรคนอื่นช่างแข็งแกร่งและอดทน ส่วนผมรู้สึกว่าวันนี้ใช้ขาเสียของไป 2 ชม. แทนที่จะได้พักขาสบายๆ
- 18.00 ฝากเสร็จค่ำพอดี ได้ถ่ายรูปกับบรรยากาศค่ำคืน ก่อนกลับไปหาข้าวกิน และพักผ่อนเสียที 

วงเรกเก้ และโต๊ะเก้าอี้พักผ่อนที่ทางงานเตรียมไว้ให้เปลี่ยนบรรยากาศ

- 23.00 กว่าจะหลับ ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดี