Part 2/2 วันแข่งและหลังแข่ง
Prepare
- 4.00
ตื่นก่อนเวลาที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย
เช็คอุปกรณ์ พร้อมแล้วออกเดินทาง
- 4.35
ยังออกเดินทางไม่ได้ โดนจอดรถขวางล๊อคล้อ พยายามสงบใจ
ให้รีเซปชั่นโทรไปตามเจ้าของมาเลื่อนรถ
- 4.50 ออกเดินทางจริงซะที ด้วยการกล่าวขอบคุณเจ้าของรถที่ขวาง ด้วยน้ำเสียงขุ่นแบบที่ไม่น่าเป็นการขอบคุณใคร
- 4.50 ออกเดินทางจริงซะที ด้วยการกล่าวขอบคุณเจ้าของรถที่ขวาง ด้วยน้ำเสียงขุ่นแบบที่ไม่น่าเป็นการขอบคุณใคร
- 5.20 เดินทางถึงทรานซิชั่น (T) จุดเปลี่ยนชนิดกีฬา
คือแข่งจบชนิด ก็มาเปลี่ยนอุปกรณ์ที่นี่ให้พร้อมไปต่อ
- ใช้เวลาจัดอุปกรณ์
เติมน้ำ โหลดอาหาร ฯลฯ ตามเวลาปกติคือ 20 นาที เวลายังเหลือ
เดินไปคุยเล่นกับตุ๊กตาที่ยืนรออยู่นอก T
ก้มๆเงยๆจัดของ เตรียมอุปกรณ์ 20 นาทีเป็นปกติ |
- 5.55 ใกล้เวลาปิด T เดินออก ไปยืนรอใกล้จุดปล่อยตัว
- 6.00 เจอน้องเจ้าหน้าที่พูดประโยคยาวๆรัวๆเร็วๆเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า ห้ามใส่รัดน่องแข่ง ผิดกติกาIM ให้ถอดออก
- หืม อันนี้ผิดเองไม่ศึกษากฎให้ดี ถอดได้ครับ แต่จะไปเก็บทันไหม T ถึงเวลาปิดไปแล้ว หรือต้องถอดโยนทิ้ง เสียดาย 555
- 6.00 เจอน้องเจ้าหน้าที่พูดประโยคยาวๆรัวๆเร็วๆเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า ห้ามใส่รัดน่องแข่ง ผิดกติกาIM ให้ถอดออก
- หืม อันนี้ผิดเองไม่ศึกษากฎให้ดี ถอดได้ครับ แต่จะไปเก็บทันไหม T ถึงเวลาปิดไปแล้ว หรือต้องถอดโยนทิ้ง เสียดาย 555
- วิ่งกลับไปเข้า T เจ้าหน้าที่ต้อนคนออกแล้ว
สปริ้นไปมึนๆ ถึงจุดจอดรีบถอดแล้ววิ่งกลับออก ยังดีที่ทัน (เลทนิดนึงแบบไทยๆ)
- Trasition ยาว 800 ม. นะ วิ่งไปกลับจุดจอดของเราอยู่กลางๆค่อนท้าย คือวิ่งไปแล้ว 1 K
- เหนื่อยเหงื่อซึมทั้งที่ลมแรง เหมือนได้วอร์มแล้ว เลยไม่ลงน้ำว่ายวอร์มเหมือนทุกที เดี๋ยวหมดแรง
- Trasition ยาว 800 ม. นะ วิ่งไปกลับจุดจอดของเราอยู่กลางๆค่อนท้าย คือวิ่งไปแล้ว 1 K
- เหนื่อยเหงื่อซึมทั้งที่ลมแรง เหมือนได้วอร์มแล้ว เลยไม่ลงน้ำว่ายวอร์มเหมือนทุกที เดี๋ยวหมดแรง
Transition อันยาวไกล ไปกลับทีเป็นกิโล |
At start line
- ใกล้เวลาปล่อยตัว
นักกีฬาทุกคนมายืนเป็นกลุ่มใหญ่รวมกันริมหาด แบ่งกลุ่มตามสีหมวกความเร็วว่ายน้ำ
บ้างขยับยืดเหยียดร่างกาย บ้างตั้งสมาธิ บ้างคุยกันเสียงเบาๆ
- บรรยากาศรอบตัวอธิบายได้ยาก
ภาพมันเหมือนกับที่เห็นใน Youtube มาตลอด 3-4 ปี ตั้งแต่เริ่มเล่นกีฬานี้มา
งานแข่งกีฬาที่มีโลโก้ M สีแดงเด่นๆ
มีฝรั่งกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ริมหาด สายตามุ่งมั่น มองออกไปในทะเล
เหมือนมองหาอะไรซักอย่าง
-
แต่คราวนี้ เราพาตัวเองมายืนอยู่ในนั้น
- ไม่มีเสียงเพลงปลุกใจฮึกเหิมแบบในวีดีโอ
มีแต่เสียงกรรมการประกาศรอเวลาปล่อยตัว เสียงคนคุยกันฮึมฮัม เสียงคลื่นและลมริมหาด
มันไม่ได้เงียบ แต่มันสงบ
- ลงงานไตรมาก็หลายครั้ง
คราวนี้มีคนลงแข่งเยอะที่สุด เกือบสองพันคน
แต่ครั้งนี้มันมีความรู้สึกต่างออกไปจากงานไตร หรืองานวิ่งไหนๆ
-
ปกติผมจะเห็นบรรยากาศสบายๆกว่านี้ที่จุดปล่อยตัว เราไม่ใช่นักกีฬาระดับอีลีท
ไม่ได้จะแข่งฟาดฟันกับใครเพื่อชิงอันดับ ก่อนถึงเวลาปล่อยตัวก็ทำสมาธิกันนิดหน่อย รวมกลุ่มกันถ่ายรูป ทยอยกันลงน้ำคุยสนุกกันมั่ง หัวเราะมั่งนี่ปกติ
- ตอนนี้คนที่ยืนอยู่รอบตัวผม
คือคนที่ใส่หมวกว่ายน้ำสีเดียวกัน(สีฟ้า) ความเร็วในการว่ายพอๆกัน
ซึ่งเป็นความเร็วในการว่ายปกติธรรมดา (นึกถึงวิ่งเพซ 6-7) เราก็น่าจะซ้อมมาระดับใกล้เคียงกัน แล้วก็ยังมาทำเหมือนๆ กันในตอนนี้ นิ่ง มองไปยังทะเลตรงหน้า
- เป็นการยืนหายใจรดต้นคอ ชิดกับคนเกือบสองพันคน ที่ต้องถามตัวเองว่า ทำไมรอบตัวมันสงบจัง?
- คงเพราะกลุ่มคนรอบตัวผมนี้
ไม่มีใครมาแข่งหวังอันดับดีๆแน่นอน ทุกคนก็มาเพื่อจุดมุ่งหมายซักอย่าง
- ที่แน่ๆนี่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเอาชนะใคร
- ระยะมันไกล
จนแค่จะจบได้ก็ต้องแข่งกับตัวเองให้ชนะแล้ว
- เพราะงั้นเราก็ควรตั้งสมาธิเตรียมพร้อม หยุดคิดมาก
- กรรมการเรียกรวมกลุ่มโปร
ชาวต่างชาติหลายคนเดินไปรอที่จุดสตาร์ท
- 6.25 ตามเวลา สิ้นเสียงแตรลม
กลุ่มโปรก็วิ่งลงทะเล แล้วพุ่งตัวว่ายออกไป
เห็นวีดีโอแบบนี้มาเป็นร้อยครั้ง คราวนี้เห็นด้วยตาตัวเอง กำลังจะลงแข่งด้วยกำลังของตัวเอง |
- ทุกคนมองตาม ตบมือให้กำลังใจโปร
ตบมือให้กำลังใจตัวเอง ตบมือให้กำลังใจกันและกัน
- แถวนักกีฬากำลังค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้า
กำลังจะถึงตาของกลุ่มเราแล้ว
Swim
- โปรเริ่มออกตัวผ่านไปร่วม 10 นาที
ในที่สุดกลุ่มผมเดินตามกันไปถึงซุ้ม Start กำลังจะเริ่มปล่อยตัวลงน้ำ
- Rolling start ปล่อยตัวชุดละ
4 คน ห่างกันทุก 4 วินาที เพื่อให้พอมีระยะห่างกับคนข้างหน้า
Rolling start |
- ถึงเวลาออกตัว สูดหายใจเฮือกใหญ่ ตั้งสมาธิ
พุ่งออกตัว กดนาฬิกา วิ่งเหยาะผ่านหาดทราย เท้าสัมผัสน้ำซักที
- My race started
พี่เสื้อม่วงเป็นงาน โผพุ่งรู้มุม |
- ลงน้ำได้ครึ่งตัว กำลังจะโผ อ่าว ลืมใส่แว่น ขยับแว่นเข้าที่ พุ่งตัวลงน้ำ เริ่มดึงแขนครั้งแรก
- น้ำช่วงตื้นริมหาดเย็นกว่าที่คิด คลื่นยังเรียบ น้ำใสมองเห็นคนข้างหน้าชัด
- น้ำช่วงตื้นริมหาดเย็นกว่าที่คิด คลื่นยังเรียบ น้ำใสมองเห็นคนข้างหน้าชัด
- 200 เมตรแรก ให้ตัวเองวอร์ม ไม่เร่ง
ดึงแขนเต็มรอบ พยายามปล่อยตัวไหล ไม่ออกแรงมาก
- ว่ายสบายกว่าออกตัวปกติมาก ไม่เบียด
คุมจังหวะดี
- ที่ 500 ม. รู้สึกว่าคลื่นแรงขึ้นมาก
เริ่มโล้ ดีที่เมื่อวานได้มาลอง สโตรกแขนเร็วขึ้น ไหลน้อยลง
- ที่ 700 ม. จุดเลี้ยวแรก ทันทีที่เลี้ยว
คลื่นเปลี่ยนทิศมาตีข้าง พัดเข้าฝั่ง จากซ้ายไปขวา
- ที่ 1000 ม. ไล่ทันหมวกกลุ่มทองของ VVIP
ว่ายจ้วงแขนโดนขาไปที แต่ไม่รู้ใคร แว่นเริ่มมัวมาก มองไม่ชัด
- แซงกลุ่ม VVIP ที่เต็มไปด้วยเรือล้อมหน้าหลังมาได้
แวะลอยคอล้างแว่นเคลียร์ฝ้า มองชัดแล้วไปต่อ
- ที่ 1200 ม. จุดเลี้ยวที่สอง
เลี้ยงขวาอีกที่ว่ายกลับฝั่ง มองไม่เห็นจุดให้เล็ง แต่ว่ายตามคนหน้าได้เรื่อยๆ
- เริ่มแซงหมวกเขียวที่ออกตัวก่อนมาได้เรื่อยๆ
คุมความเร็วไว้ พยายามออกแรงมากกว่าครึ่งแรก
- คนเบียดกันมากขึ้น เริ่มเจอตีนกบถีบ
โดนมือตีสีข้าง แปลก ปกติจะเบียดกันช่วงออกตัวมากกว่าครึ่งหลัง
- ที่ 1500 ม. คนเบียดกันมากขึ้นอีก
เหมือนกันเป็นกลุ่มหลังของชุดหน้า พยายามทำความเร็วขึ้น คนว่ายเกาะกัน
- โดนฟาดและกระแทกกว่าเดิม
เนี่ยว่ายเอาชีวิตรอดชัดๆ
- ที่ 1800 ม. ใกล้ถึงหาด
ปรากฏมันมีซุ้มเป่าลมกลางน้ำแคบ ทุกคนเล็งจุดนี้ เลยต้องเบียดกันผ่าน ถึงว่า
- แถมช่วงสุดท้ายส่วนใหญ่เร่งความเร็วขึ้น
เพราะแรงยังเหลือ และเตรียมวิ่งขึ้นจากน้ำ
- ใช้เวลา 45 นาที
ผ่านกีฬาชนิดแรกได้แบบตามแผนสบายๆ เวลาโอเค ท่องไว้ Long game ไม่ต้องเร่ง
Transition 1 (T1)
- จ๊อกเบาๆ ขึ้นจากหาด
ผ่านซุ้มปล่อยละอองน้ำล้างตัว หัวใจดียังอยู่โซน 3 ต้น
- ถึงจุดจอดจักรยาน
เปลี่ยนจากเสื้อว่ายน้ำไม่มีแขน เป็นเสื้อจักรยานแขนสั้น กันไหล่ไหม้
เพราะต้องปั่นและวิ่งผ่านช่วงแดดจัด
- แต่งตัวใช้เวลาสบายๆ ใส่ปลอกแขน ใส่ถุงเท้า
แว่นกันแดด คว้าgopro หยิบขนมปังขึ้นมาเคี้ยว ใช้เวลาเต็มที่
ไม่รีบเหมือนแข่งระยะสั้น
- อยากสบายกว่านี้
แต่ภรรยาตะโกนบอกว่าไปได้แล้ว เดี๋ยว VVIP มาจะติดคิว ไม่ได้ออก
- คาบขนมปังกัด
แล้วเข็นจักรยานที่ล๊อกรองเท้าปั่นติดไว้แล้วค่อยๆออกวิ่งเบาๆไปทางออก
- ใช้เวลา 5.30 นาที น้อยกว่าที่คิด
แต่มากกว่าทุกครั้งที่เคยแข่งไตรมา (ก็ไม่เคยเปลี่ยนเสื้อนิ)
Bike
- ถึงจุดออกตัวค่อมจักรยาน แล้วปั่นออก
ใส่รองเท้าบนจักรยาน
- เนื่องจากรองเท้าใหม่มากกก ยังไม่เคยใส่แข่ง
ไม่คุ้น ใส่ไม่คล่อง เลยเสียเวลาช่วงแรกเล็กน้อย #อย่าใส่ของใหม่วันแข่ง
ผ่านมาหนึ่งกิโล ยังใส่รองเท้าไม่เข้าเลย จับเบสบาร์ส่วนคนอื่นก้มลงแอรโร่บาร์แล้ว |
- ที่ 1k ใส่รองเท้าได้เสร็จก่อนออกถนนใหญ่พอดี
วันนี้ลมแรงตั้งแต่ออกตัวอย่างที่คิด ยังจับเบสบาร์ ปั่นวอร์ม เข้าถนนข้าวหลาม
- ที่ 2k ขึ้นสะพานข้ามแยกแรก
ต้องกดเต็มที่แต่แรก เพราะนอกจากชันยังสวนลมเต็มๆ โดนบังคับให้ออกแรงหนักเร็วมาก
- ที่ 4k ขึ้นสะพานข้ามแยกที่สอง
เริ่มไม่ดี ความเร็วเฉลี่ยตั้งแต่ออกตัวมาต่ำมาก 22km/h จากที่รู้สึกสบายๆตอนขึ้นจากน้ำ
ต้องเริ่มถามตัวเองครั้งแรกว่า นี่ต้องปั่นหนี cut-off ใช่ไหม
- ตามแผนคือ จะปั่นเฉลี่ย 28km/h ตลอดระยะทาง
90k เพราะเป็นช่วงคุมหัวใจได้ดี
ประสิทธิภาพ/การใช้กล้ามเนื้อไม่ล้ามากแม้จะปั่นทางไกล
แต่ตอนนี้ไม่น่าจะเร่งได้ใกล้เคียงด้วยซ้ำ
- ที่ 8k ขึ้นสะพานข้ามมอเตอร์เวย์ไปทางเขาเขียว
ความเร็วยังแค่ 25k/h แต่เริ่มล้าแฮมสตริง
ทั้งที่เพิ่งได้แค่หนึ่งในสิบของระยะทาง อาจออกแรงดึงบันไดมากไป
หรืออาจตั้งแผ่นครีทรองเท้าใหม่ไม่ดี #อย่าใส่ของใหม่วันแข่ง
- ที่ 12k หลังข้ามมาช่วงหุบเขาเขียว
เริ่มลมสงบบางช่วง ทำความเร็วขึ้นได้บ้าง
- แต่ช่วงลมพัดผ่านร่องเขา ก็แรงจนแทบคุมจักรยานไม่ได้
รถเป๋ ต้องค่อยๆประคองไป กลัวล้มแข่งไม่จบ
- มารู้ตอนหลังว่าล้มหลายคัน
โดนเฉพาะรถใส่ล้อดิสและล้อขอบสูงมากๆ ปลิวตามลม
ลมแรงพัดฝุ่นทราย มาปะทะตัว แถมยังปัดจักรยานจนเป๋ |
- ประคองรถ
สลับก้มจับแอร์โรบาร์เท่าที่ทำได้ ค่อยๆทำเวลาคืนมา
- สลับกันแซงขึ้นลงกับพี่ชุดสวนกุหลาบ
(ชุดลายดอกกุหลาบกลีบชมพูฟ้าบนตูดพี่บอกสถาบันมาก) ทางราบเค้าแซง
ทางเนินเราตัวเบากว่าก็แซงเค้าคืน ดูแล้วน่าจะแรงใกล้เคียงกัน
ก็พยายามเกาะไปห่างๆเพื่อ pacing
- ที่ 20k feed point แรก
รับแต่ขวดน้ำเปล่า หยิบขนมปังในกระเป๋าหลังมากิน ช่วงครึ่งแรก
พยายามกินอาหารแข็งก่อน ยังย่อยไหว
- ลงจากอ่างเก็บน้ำบางพระขาไป
กลับเข้าโหมดการแข่งของจริง หลายๆคันเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ไล่ทำเวลากันคืน
รวมถึงลมน้อยลงมาก
- ที่ 40k feed point 2
ไม่รับน้ำเพิ่ม เพราะจะถ่วงรถตอนปีนเนิน หยิบข้าวต้มมัดซองขึ้นมากิน
- จุดกลับตัวครึ่งทาง ปั่นย้อนทางเดิม
เช็คสภาพตัวเอง ยังดี แรงกลางๆ ล้ากลางๆ
น่าจะไปต่อได้ด้วยการออกแรงระดับเดิมไม่มีปัญหา
- ที่ 50k ปั่นขึ้นเนินไปเส้นเลียบอ่างบางพระ
วิวสวยจนต้องชะลอหยิบกล้องออกมาถ่ายเก็บไว้ เสียดายช่วงนี้ตากล้องแอบเยอะ
รูปเราเลยท่าไม่สวย ^^”
ไฮไลต์เส้นทางปั่น ริมอ่างเก็บน้ำบางพระ |
จุดชันสุดคือขึ้นสันอ่าง ยังไม่ถึงกับต้องยืนกด |
- ที่ 60k feed point 3
รับเจลถุงมาดูดเย็นชื่นใจ น้องๆที่มาช่วยแจกตั้งใจมาก
ส่งอาหารให้คนปั่นจักรยานรับไม่ง่ายเลย หล่นก็เยอะ
รู้สึกว่าได้ช่วยเหลือค่าขนมน้องๆทำงานพิเศษ
(อ้าง)
- ขากลับลมยังมาแรงเป็นช่วงๆ
ต้องระวังเหมือนเดิม แต่พอปรับตัวได้บ้างแล้ว ความเร็วเฉลี่ยดีกว่าครึ่งแรก
- ที่ 80k ลมส่งกลับช่วงสุดท้าย
หลายๆคนกดกันเต็มที่เพราะเป็นท้ายการปั่น แม้แต่เราเองก็ปั่นหนักกว่าที่ตั้งใจไว้
เพราะมันสนุกมาก กดกันแบบ 40km/h.++
ขากลับบนถนนข้าวหลาม เร่งสนุกมาก |
- ที่ 89k เริ่มผ่อนขา
ต้องเข้าหลายโค้ง ถอดรองเท้ารอ แต่ไม่กระโดดลงรถเหมือนทุกที เพราะไม่รีบ
แค่ไม่ต้องห่วงถือรองเท้า หรือวิ่งด้วยรองเท้าปั่น จอดแล้วก้าวลง
จ๊อกเข็นรถเข้าจุดเปลี่ยน
- จบจักรยาน 90K เวลา 3:01 h. เฉลี่ย
29.5km/h. ดีกว่าที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย
โดยออกแรงมากกว่าที่คิดในช่วงท้าย แต่สภาพร่างกายยังถือว่าใช้ได้
Transition 2 (T2)
-
ปลดสายหมวกกันน๊อครอระหว่างจ๊อกไปจุดจอดจักรยาน
- จอดรถ ถอดหมวกปั่น ใส่หมวกแก๊บ
วันนี้แดดแรงเลยไม่ใส่ visor เหมือนปกติ ใส่รองเท้าวิ่ง คาดเบอร์
- จ๊อกไปจุดออกตัววิ่ง T2 กินเวลาน้อยกว่า T1
เพราะขั้นตอนน้อย
- ใช้เวลาไป 3 นาทีเศษ เป็นการจ๊อกผ่านระยะ T
ไปแล้ว 2 นาทีกว่า
Run
- ออกตัวใกล้ 11โมง แดดแรงได้ที่ ระยะ 21k
แบ่งเป็นรอบเขาสามมุกยาว 7K X 3รอบ
วนจุดกลับตัวหน้าเส้นชัย รับสายคล้องข้อมือ แล้ววนจนครบทั้ง 3 รอบ
- ในแต่ละรอบแบ่งเส้นทางเป็น 2k แรก
ทางราบจากเส้นเรียบหาดไปจนจุดให้น้ำตีนเนินแรก 3kช่วงกลางทางโรลลิ่ง
ขึ้นสลับลงเนินเขาสามมุข มีเนินชัน 2 ลูกช่วงติดทะเล (ใครเคยมาวิ่ง series
Bangsaen 42/21 น่าจะคุ้น) ปิดด้วย 2kท้ายราบเรียบหาดขากลับ
ช่วงเลียบชายหาด เรียบ วิ่งสบาย |
ช่วงขึ้นเนินถึงสั้นแต่ชัน บางคนเลือกเดินเก็บแรง เซฟกล้ามเนื้อ |
- รอบ 1 ออกตัวค่อนข้างเร็วกว่าที่คิดไว้
เพซ5ปลายไปจนถึงตีนเนินแรก รับน้ำวิ่งขึ้นลงเนินได้ยาวๆ ยังล้าน้อยสภาพดี
ไม่มีปัญหา
- รอบ 2 อากาศร้อนขึ้นใกล้เที่ยง
เพซลดเหลือประมาณ 6 เจอเนินต้องลดความเร็วซอยเท้าจ๊อกขึ้นเบาๆ
ต้นขาด้านหน้ารู้สึกตึง ผ่านจุดให้น้ำ ต้องสลับเดินกินน้ำ จนใกล้พ้น station
เจอโปรหญิงฮ่องกง ชุดโปรมากๆ น่าจะวิ่งรอบท้าย
ปรบมือให้กำลังใจช่วงที่เค้าแซงไป เราก็ประคองของเราได้จนกลับตัวอีกครั้ง
น้องโปรหญิงฮ่องกง เท่สุดๆ แน่นอนว่าโพเดี้ยม |
- รอบ 3 เที่ยงกว่า แดดดูดแรงไปไปมาก
ทางราบยังวิ่งได้แม้จะลดเวลามาอีกหน่อยที่เพซ 6 กลางๆ
แต่ต้นขาปวดตอนขึ้นทางชันต้องแวะฉีดสเปรย์ เปลี่ยนเป็นเดินเร็วขึ้นเนินเพื่อไม่ให้ตะคริวมา
แวะรับของกินตาม station นานขึ้น กินเยอะขึ้น ไม่รับน้ำเกลือแร่
แต่กินเจลรัวๆ เนื่องจากทีมงานจัดมาไว้เยอะมาก 3-4 ยี่ห้อ หลากรส
ถือโอกาสลองกินตัวใหม่ๆหลายตัว แถมพกกลับบ้านมาหลายซองด้วย 55
ไอติมก็กินตลอดถ้าจุดนั้นมีบริการ
ในมือมีซองเจล และในกระเป๋าคาดเอวก็ตุงไปด้วยซองเจล -o- |
- แรงลดลงแต่ยังไปได้เรื่อยๆ
ทรมาณน้อยกว่าที่คิด พอสบายใจว่าจบแน่ เริ่มสนุกกับบรรยากาศรอบตัวมากขึ้น
เล่นกับคนเชียร์ตามทาง
- กิโลสุดท้าย ขยับชุดให้เข้าที่
รูดซิปเสื้อขึ้นปิดคอ วิ่งไปยิ้มไป เริ่มมองไปรอบๆ คำนวณแรงนักกีฬาใกล้ๆ
กะว่าขอไม่ชิดคนหน้า-หลังมากไป จะได้มีระยะห่าง เผื่อได้รูปสวยๆมั่ง
แต่งตัวเรียบร้อย ทำหน้ายิ้มๆ (แต่ลืมเช็ค BIB) |
- ก่อนเข้าเส้น 400m. ผู้จัดงานมีธงชาติเตรียมไว้ให้ใช้ถือชูเข้าเส้นสวยๆ
แต่ด้วยความเขิน และเสื้อที่เลือกใส่ก็มีลายธงชาติแล้ว
ขอไม่รับแล้วเตรียมวิ่งเข้าเส้น (งานหน้าถ้ามีจะขอถือธงชาติเข้าเส้น)
- ภรรยามารอใกล้เส้น หันไปโบกมือให้ตามเสียงเรียก
ขอบคุณที่มารอถ่ายรูปให้นะ
- เงยหน้ามองเส้น ปลื้มๆ
ขอบคุณการซ้อมที่ผ่านมา 4 เดือนของตัวเอง ถ้าซ้อมถึงวันแข่งมันจะสนุกมาก
เห็นรูปที่ออกมายิ้มทุกรูปเลย
- ผ่านเข้าเส้นไป ลืมนึกถึงท่าที่ตั้งใจจะโพส
แต่ไอ้การชูแขนตลกๆนี่มันก็เป็นธรรมชาติของตัวเองดีเหมือนกัน
เฮ่ จบแล้ว |
- ตบมือแรงๆไป 1 ที เรียกกำลังใจ
มันต้องทำได้สิ บอกตัวเองตลอดช่วงที่ซ้อมยาวเหมือนจะไม่สิ้นนสุดซักทีจนล้าจนกรอบ
แล้วตอนนี้มันก็สำเร็จได้จริงๆ
- ใช้เวลาวิ่ง 2:06 h. ดีกว่าที่ตั้งใจ
แม้มีเดินบ้างแต่รู้สึกว่าวิ่งได้ตามมาตรฐานตัวเอง
Race done
- ใช้เวลารวม 6:04:45 h. เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย
เหนื่อยกำลังดี แต่สนุกเกินคาดไปมาก
- ขอนับเป็นงานระยะอัลตร้าแรกของตัวเอง
- รับเหรียญสุดหนัก ทรงประหลาดแต่ไม่เหมือนใคร
รับเสื้อพินนิชเชอร์ ลายถูกใจที่เห็นแล้วนึกถึงทหารเรือ แล้วเดินไปหาภรรยา
- รับอาหารมารองท้อง ยืดเหยียดนิดหน่อย
พักอยู่ซักแป๊บ ก็เตรียมตัวเก็บอุปกรณ์กลับ นี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้ว นานกว่าทุกครั้ง
- ก่อนกลับหันไปมองจุดจัดงาน
นักกีฬายังคงทยอยเข้าเส้นชัยมา ยังมีเวลาก่อนคัตออฟอีกมาก คนยังคึกคัก
- IM 70.3 เป็นระยะที่ดีมาก มันกำลังพอดีในหลายๆด้าน
ระยะเวลาที่ใช้แข่ง การจัดเวลาซ้อมสำหรับคนทำงานประจำ การเอนเตอร์เทนนักกีฬา
ถ้าวันที่วิ่งฟลูมาราธอน เป็นอะไรที่ธรรมดาขึ้นสำหรับเรา
ควรท้าตัวเองให้มาลองซักครั้ง
-
แม้ว่าคงไม่ใช่งานที่จะกลับมาลงทุกปีจากปัจจัยหลายๆอย่าง
แต่ผมว่ามันจะยังสร้างเป้าหมายและแรงบันดาลใจอื่นๆให้ผมได้อีกนาน
- ขอบคุณคนจัดงานที่จัดออกมาได้ดีตามคาดหวัง
ขอบคุณนักไตรกีฬาไทยที่ขับเคลื่อนวงการให้มันใหญ่พอที่จะงานระดับนี้ในประเทศได้
-
ขอบคุณหลายปัจจัยรอบตัวที่ทำให้นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะมาท้าทายตัวเองแบบนี้
และขอบคุณตัวเองที่ทำเต็มที่เท่าที่ทำได้เพื่อให้ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอะไรแบบนี้ซักครั้งในชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น