Tour of
Chanthaburi 1st ลงงานแข่งครั้งที่ 1
หลังออกทริปก๊อกๆแก๊กๆซ้อมปั่นไปเรื่อยซักพักก็อยากจะหาบรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมให้เรามีเป้าหมายในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
ในตอนที่เปิดเวปหาทริปก็ไปเจอหน้ารับสมัครงานแข่งที่จันทบุรีในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะลงตัว
เนื่องจากบ้านบุพการีอยู่จันทบุรีเป็นจังหวัดที่คุ้ยเคย สถานที่ก็รู้จัก
ระยะก็พอไหว เลยแทบจะตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่า
รายการนี้แหละเปิดรอเราไปลงอยู่(คิดเอง)
จากข้อมูลการแข่งแบ่งรุ่นและระยะแล้วสรุปได้ว่าเริ่มจากรุ่นมือใหม่ไม่จำกัดอะไรเลย
ระยะทาง 50 กม.เป็นไปได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ไม่น่ามีปัญหาการจบในเวลาไปถ่วงผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ
ซึ่งคิดถูกมาก เพราะด้วยความสามารถ ณ ตอนนั้นจะให้ไปลง OPEN
หรือแม้แต่รุ่นอายุตัวเองแล้วจะเกาะไปได้ตลอดเวลาและเส้นทางแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ตัดสินใจได้ก็หาเวลาแวะไปจันทบุรีซักทีจะได้ไปดูเส้นทางและลงสมัครกับร้านจักรยานที่เป็นตัวแทน
พร้อมแสดงความมุ่งมั่นด้วยการออกไปปั่นลองเส้นทางพร้อมคุณมารดาซึ่งมีจักรยานเสือภูเขาอยู่หนึ่งคัน
วันที่ 7/12 เกือบ 8 โมง ออกตัวไปจากบ้านซึ่งห่างจุดสตาร์ทประมาณ 8 km.
เส้นทางจัดงานเริ่มออกตัวที่ อบจ.จันทบุรีซึ่งเป็นผู้จัดงาน
วนไปตามเส้นทางสุขุมวิทสายหลัก 5 km.ก่อนจะวกไปทางรองที่ถนนค่อนข้างดีแต่มี
2 เลนและไหล่ทางแคบ
รถบรรทุกวิ่งเป็นส่วนมากแม้จะไม่ใช่ทางที่รถผ่านไปมาเยอะแต่ก็พอได้เสียวอยู่เรื่อยๆ สภาพพื้นที่เป็นทางขึ้นลงเนินขนาดย่อมแทบตลอดสาย
กินแรงมากกว่าปั่นทางราบพอสมควรสำหรับคนที่วันๆอยู่แต่แถวกทม.เป็นหลัก
ทางเปลี่ยวบ้างบางช่วงแต่วันซ้อมก็ยังพอหาร้านชำขนาดเล็กแวะได้ตลอดทาง
พยายามแวะทุกชั่วโมงให้ได้พักเนื่องจากคุณมารดาไม่เคยปั่นทางยาวขนาดนี้มาก่อน ก่อนจะวกกลับมาถึงจุดเดิมด้วยความเหนื่อยขนาดต้องตามรถมารับเพราะถ้าไปต่อถึงบ้านจะหนักเกินไป
ยังไงก็พอมั่นใจได้ว่าจบได้ตามเวลาที่กำหนด (มีเวลาให้ 3.30 ชม.)
ไปซ้อมซะหน่อย ไหล่แทงแคบไปนิดเจอรถบรรทุกก็หลบพี่เขาก่อน
วันลงทะเบียน 21/12 จุดลงทะเบียนสับสนเล็กน้อย
เนื่องจากไม่มีการแจ้งชัดเจนและพื้นที่อบจ.แห่งใหม่ก็ค่อยข้างกว้าง
วนไปตามจุดต่างๆหลายที่ จนเห็นรถที่มีจักรยานห้อยอยู่จอดกันหลายคันถึงได้ไปถูก
ด้วยความไม่เคยก็ใช้เวลาทำความเข้าใจกับการรับเบอร์บ้างแต่ไม่ยาก เพราะคนยังไม่มาก
แม้จะเป็นการจัดงานครั้งแรก แต่กลุ่มผู้จัดค่อนข้างมีประสบการณ์แข่งมามากก็มาคอยแนะนำและรับหน้ารับคำบ่น
(ทราบทีหลังว่าเป็นนักปั่นระดับประเทศ พยายามจะสร้างกิจกรรมและชักชวนคนที่บ้านเกิดให้มาปั่นจักรยาน
ต้องลงแรงลงเงินไปพอสมควรเพราะงบจาก อบจ.เองก็จำกัด ถือว่าน่าสนับสนุน)
ได้เบอร์ไปก็เอากลับไปติดจักรยาน หยอดโซ่ครั้งแรกตั้งแต่ขี่ ถอดของไม่จำเป็นออก
แล้วก็สบายๆวันพักผ่อน
Start-Finish Point
วันแข่งจริงตื่นมา 7 โมง หาไรเบาๆกินแล้วไปที่จุดปล่อยตัว
เนื่องจากปล่อยตัวค่อนข้างสาย 9 โมง เลยมีเวลาก่อนพอสมควร กินปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้
ข้าวต้มที่มีแจกอีกหน่อย(กินเยอะจนเริ่มตัวหนัก) พยายามดูว่าคนอื่นทำไรกันบ้างก็ทำตามเขาไป วอร์มนิดหน่อย เข้าห้องน้ำ เช็ครถตามเรื่อง ใกล้เวลาเริ่มพิธีการเลทนิดหน่อยแต่ไม่น่าเกลียด
แล้วก็ไปต่อคิวรอรอบ แน่นอนว่ารุ่นมือใหม่ออกเป็นกลุ่มสุดท้าย
เราก็ไปเกาะแนวหลังเพราะไม่ได้คิดจะวัดกับใคร (ที่จริงีือวัดไม่ไหว
รุ่นมือใหม่นี่หมอบคาร์บอน ล้อขอบสูง ชุดขับบนๆอื้อเลย
ดีนะตอนนั้นยังไม่รู้จักเลยไม่แป้ว)
มีบรีฟก่อนปล่อยตัวเล็กน้อย ทุกคนลากจักรยานมาฟังดีว่าสถานที่กว้างขวาง
ต่อคิวออกตัว ขอไปอยู่แนวหลัง ให้ขาแรงไปก่อน
หลังออกตัวกลุ่มนำเร่งออกไปไกลลับตาอย่างไว
เราก็ค่อยๆไต่จากแนวหลังขึ้นไปตามความเร็วที่ปั่นปกติบวกไปนิดหน่อยประมาณ 32-35 kph.
ผ่านคุณป้าคุณอาก็ได้ยินเสียงลอยตามมาว่าพวกนี้มันมือใหม่อะไรกันนี่ แหมกลุ่มนำเค้าไปไล่แซงเสือภูเขาที่ปล่อยตัวก่อนจนทันแล้วนะคร๊าบ
พวกผมอ่ะใหม่จริงจักรยานเพิ่งซื้อได้ 2 เดือน จนถึงทางแยกจากถนนสายหลัก
ทางเริ่มเป็นโรลลิ่งขึ้นลง กลุ่มเริ่มขาดออกจากกัน จะไปเกาะคันหน้าก็ช้ากว่าเรา
พอไล่เร็วไปถึงกลุ่มต่อไปก็รอบขาเราก็นำไปแล้ว สรุปค่อยๆปั่นเดี่ยวแซงไปได้ด้วยความไม่มีประสบการณ์
ยังออมแรงอะไรไม่เป็น บรรยากาศมันพาให้ฮึกเหิมไปเรื่อย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงนักปั่นทิ้งห่างกันแบบสังเกตได้
เนื่องจากนักปั่นส่วนใหญ่มือใหม่ไม่เน้นปั่นกลุ่ม ไม่มีผลัดกันนำผลัดกันตาม มีเริ่มแซงกลุ่มเสือภูเขากลุ่มท้ายได้บ้าง
เนินเริ่มส่งผลกับนักปั่นที่นิยมทางราบทำความเร็วกันไม่ได้เลย
เริ่มเหนื่อยจริงจังความเร็วลดลงเหลือเฉลี่ย 27-30 kph.
กล้ามเนื้อหน้าขาล้าเพราะใส่เฟืองวงใหญ่มาตลอดทางเพราะทางขึ้นลงเยอะแต่ไม่อยากเปลี่ยนเฟืองหน้าบ่อย
กินเกลือแร่เพิ่มขึ้นกลัวตระคริวจะมา
เสือหมอบ 80 โล / เสือภูเขา+มือใหม่ 50 โล / VIP 10 โล
ครบชั่วโมงเลยครึ่งทางมาได้หน่อยทางยังโรลลิ่งแต่ไม่ชันและยาวขึ้น พยายามหาจังหวะกินบาร์แม้จะเคยลองกินขณะปั่นมาบ้างแต่ด้วยความเหนื่อยกว่าปกติรู้สึกได้ว่ามันมีอาการดันขึ้นมาผะอืดผะอมพอดู
ต้องระบายด้วยการพยายามเรอซึ่งช่วยได้บ้าง ประมาณช่วง km.35
เจอกลุ่ม OPEN ที่ออกตัวไปก่อนประมาณ
25 นาทีปั่นไปทาง 80 km.
แซงไปในจุดทางของสองกลุ่มบรรจบกัน นึกในใจ นี่สินะของจริง
ซึ่งที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่กลุ่มนำด้วยซ้ำ ยังต้องฝึกอีกเยอะ เข้าช่วง 10 km.สุดท้ายเริ่มมีป้ายบอกระยะทางที่เหลือ
มาถูกเวลาพอดีเพราะแรงเริ่มหมด จนช่วง 5 km.สุดท้ายทางออกมาบรรจบกับถนนสุขุมวิทสายหลัก
เห็นได้ว่านักปั่นที่มีประสบการณ์เริ่มเร่งความเร็วขึ้น
ส่วนเราแค่ประคองความเร็วก็เต็มที่แล้ว ค่อยๆถูกคนข้างหลังแซงห่างออกไปแบบไม่สามารถไล่ไปเกาะได้
แถมเส้นชัยอยู่บนเนินทางเข้าอบจ.ทุกคนพยายามสปรินท์เข้าสวยๆ แต่อย่าว่ายืนปั่นเลย
ตอนนี้เร่งรอบขึ้นก็ไม่ไหวแล้ว ประคองตัวเข้าเส้นไปได้แบบเหนื่อยๆ ดูเวลาก็จบที่ประมาณ
1:35 ชม.
เร็วเฉลี่ยประมาณ 30 km.ได้ใกล้เคียงที่ตั้งใจไว้ก็โอเค
(AV 30ได้อันดับ
56 ของมือใหม่เอง) หาอะไรกินเหลือแต่ข้าวกับหมดซึ่งหิวๆกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว
รอเวลาแลกเหรีญที่ระลึก พอคุณมารดาปั่นตามเข้ามาที่ประมาณ 2
ชั่วโมงกว่า(เก่งมากเพราะปกติปั่นน้อยและรถเสือภูเขาเดิมๆหนักมากกก) ถ่ายรูปที่ระลึก รอเหรียญ แล้วก็ชวนกองเชียร์ครอบครัวไปหาอะไรกินกันมีความสุขแบบหมดแรงๆ
แจกเหรียญที่ระลึกอย่างเดียว แต่แอบมีพลอยเม็ดเล็กติดอยู่ดูมีมูลค่าเพิ่ม
ชอบ
- การจัดเตรียมงานทำได้ดี
คงเป็นเพราะผู้ดูแลก็เป็นนักปั่นซึ่งจะเข้าใจว่านักปั่นต้องการอะไร
ระบบการลงทะเบียน การใช้ชิปเวลาเป็นระบบพอสมควร ขอชมในฐานะการจัดงานครั้งแรก
- ระหว่างทางจัดให้มีกองเชียร์เป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่มากเล่นดนตรี
ยืนตบมือเชียร์บนยอดเนิน ด้วยความที่ไม่เคยร่วมงานที่มีบรรยากาศแบบนี้มาก่อนรู้สึกได้กำลังใจเพิ่มขึ้นมาก
งานนี้นำรายได้มอบให้กลุ่มโรงเรียนที่เส้นทางแข่งผ่านเรายิ่งเต็มใจยินดีที่ได้ร่วมทำบุญ
ถ้าต่างฝ่ายต่างส่งความสุขเล็กๆน้อยๆต่อกันได้แบบนี้ก็ปลื้มครับ
(แค่หวังว่าเด็กๆจะไม่ร้อนมากเกินไปที่ต้องมายืนตากแดดน่ะนะ)
ไม่ชอบ
- เส้นทางที่เลือกใช้ถนนถนนหลายจุดไม่ค่อยดี แม้จะประชาสัมพันธ์ว่าซ่อมแล้วก็เป็นเพียงเอาหินกรวดโรยแล้วนำรถมาบดอัด
รถยางแคบลื่นมากโดยเฉพาะช่วงโค้งและลงเนิน
เข้าใจว่าพยายามแล้วคงเป็นวิธีดีสุดที่จะทำได้ในเวลาและงบจำกัด
- ปล่อยตัวสายไปหน่อย 9.00 น.
นักจักรยานส่วนใหญ่ตื่นเช้าอยู่แล้วไม่น่าเป็นปัญหา อาจเป็นเพราะต้องรอประธานงานหรือต้องเผื่อเวลาให้อาหารย่อยก่อนปั่น
(แต่คนจริงจังเขาเผื่อเวลาให้ตัวเองตื่นมากินได้อยู่แล้วนี่ครับ)
ส่งผลให้คนจบสายๆร้อนมาก โดยเฉพาะมือใหม่และผู้สูงอายุที่ปล่อยตัวทีหลังแล้วยังปั่นความเร็วได้ไม่มาก
- น้ำและอาหารดีช่วงเช้าก่อนปล่อยตัว
แต่หลังแข่งจบไม่พอกิน คนนอกมาต่อคิวกันเยอะ ถ้าไม่พกไรสำรองมากินบ้างมีหงุดหงิด
- พิธีการช่วงหลังแข่งเริ่มและดำเนินไปค่อนข้างช้า
สรุปเป็นงานที่โดยรวมก็ยังน่าประทับใจ มีอะไรดีๆอยู่ชดเชยได้พอสมควร
ถ้ายังมีครั้งต่อๆไป คนจัดไม่ท้อหรือเบื่อซะก่อนก็ยินดีไปซ้ำอีกแน่ๆ